สิงห์นักบิดเข้าสิงทนเก็บความรู้สึกคับข้องใจไว้ไม่ไหวแล้ว ก็เรื่องมันเกิดขึ้นบ่อยมาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาครั้งนี้ พี่ก็ยังไม่เครียอีกแถมยังเงียบอีกฉันจึงบอกเลิกๆๆพี่ไปเหตุผลก็คือพี่โกหก หลอกฉันพี่บอกกับคนทางนั้นว่าพี่ไม่ได้ชอบฉัน แต่ฉันน่ะ ไปชอบพี่อยู่ฝ่ายเดียว เจ็บใจนักที่พี่มาจับปลาสองมือไว้แบบนี้ตอนบ่ายวันศุกร์ที่15ส.ค.51 เลยด่าพี่ไปทางเอ็ม"สารเลว ไอ้ชาติชั่ว ชาติหมา ไอ้คนเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ทำตัวอย่างกะพวกผู้ชายขายตัว สำส่อนไม่เลือกที่ครูแบบนี้ลาออกแล้วไปขายบริการยังจะดีกว่าอีก แบบอย่างเลวๆแบบนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นครูไทยหรอกแมร่ง ไอ้บัดซบ ไอ้เหี้ย ฯลฯ "ตอนที่ฉันด่าพี่แบบนี้ไปพี่ก็บอกว่าพี่มีเรื่องดีๆหลายเรื่องเลยที่อยากจะคุยด้วยแต่พอมาเจอคำด่าของฉันพี่เลยจอดดดดพี่คงไม่เคยคิดว่าฉันน่ะแค้นพี่มากแค่ไหนฉันสามารถฆ่าพี่ได้เลยนะเนี่ย ถ้ามีอาวุธนะมันแค้นใจนัก ที่พี่อยู่บนนั้นกะคนนั้นและไม่สนใจกันเลยพี่เบื่อแล้วก็มาทิ้งกันง่ายๆๆแบบนี้ไม่ได้หรอก..เพราะฉะนั้นเช้าวันเสาร์ที่ 16 ส.ค.51 ฉันก็ควบมอไซค์ บิดขึ้นไปรร.พี่ทันทีเพราะว่าฉันอยากจะคุย อยากจะเจอพี่ คุยให้รู้เรื่องแต่พี่บอกว่าติดงานเรื่องเตรียมงานสัปดาวิทย์พี่บอกอีกว่าอย่าเพิ่งขึ้นไปตอนนี้เลย เพราะว่าผอ.จับตามองอยู่ เด๋วเรื่องมันจะไปกันใหญ่พอเจอห้ามแบบนี้ ใจก็ไม่นิ่งแล้ววววต้องลุยบิดมอไซค์ ไป ระยะทางประมาณ150 กม. (เป็นลูกรัง 50 กม.)บิดด้วยความเร็ว 80-110 กม./ชม. สลับกันตลอดเวลาก็ใจฉันมันร้อนรน อยากจะเจอหน้าไอ้คนโกหก อยากจะไปให้เห็นว่าพวกพี่สองคน "รักกัน"ฉันอยากเห็น อยากรู้ เพื่อที่ฉันจะได้สามารถเอาชนะใจตัวเองได้ ฉันจะได้ไม่เครียดมากเรื่องพี่อีก เข้าเมืองผี เมื่อเข้าสู่ตัวอ.นครไทย ใจก็เริ่มหวั่น ทำไมมันน่ากลัวแบบนี้
แต่นั่นละ ฉันก็ยังรู้สึกตัวอยู่ ฉันมีจุดหมายคือไปยังเมืองผี
เข้าสู่ตัวอ.ชาตริตระการ แวะกินข้าว พักเหนื่อย เป็นการเดินทางที่เหนื่อย และน่ากลัวเหลือเกิน เพราะสิ่งที่ฉันกำลังจะได้รับรู้ นั่นคอการสูญเสีย
พอถึงทางแยกขึ้นหมู่บ้านน้ำจวง (บ้านน้ำตอน) ฝนตกลงมา หนักมาก ทางแยกนั้นเป็นทางลูกรัง
ฉันใส่เสื้อกันฝน และฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนั้นต่อไป โดยไม่หยุดหย่อน
สองข้างทางเต็มไปด้วยไม่ป่ามากมากมาย แต่ฉันไม่สามารถมองเห็นและสัมผัสธรรมชาติเหล่านั้นได้เลย
เพราะว่าจิตใจฉันร้อนรุ่ม ทั้งที่ต้นไม้และทิวเขาพวกนั้นเป็นสิ่งที่ฉันชื่นชอบยิ่งนัก แต่ ณ เวลานั้นแล้ว
ใจมันจดจ่ออยู่ตรงนั้น คำถามนั้น
ผ่านไปประมาณเกือบ 2 ชม.
มอไซค๋คู่ชีพก็พาฉันมาถึงเมืองผี เป็นหมู่บ้านผี ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
มันหลอกหลอนฉันตั้งแต่พี่ไปสอนอยู่ที่นั่น
ตลอดเวลา 1ปีเต็มที่นั่น ทำให้ฉันกลายเป็นคนจิตตก ประสาท เครียด อารมณ์ฉุน
เมื่อฉันขึ้นไปถึงรร. และเจอหน้าพี่
พี่กำลังทำงานอยู่
งานไม่ยุ่งนัก
แต่พี่ถามฉันสั้นๆ ว่า "มายังไง มากะใคร"
และฉันก็ตอบสั้นๆ ว่า บิดมอไซค์มาคนเดียว
พี่นั่งนิ่งตลอด
สักพักผู้หญิงคนนั้นก็เดินมา
และหยุดจ้องหน้าฉัน
สายตานั้น ฉันสามารถรับรู้ได้เลยว่า พี่คงกลัว
ฉันหวั่นๆ แต่ก็ใจดีสู้เสือ
เพราะ ณ เวลานั้น ไม่มีใครเป็นพวกฉันเลย
ฉันจ้องหน้ามันตอบ
มันเดินมาถามพี่ว่า ฉันเป็นใคร
พี่ไม่ตอบ
ทั้งฉันและผู้หญิงคนนั้นนั่งขนาบข้างกายพี่
จนงานพี่เสร็จ
เราจึงนัดเจรจากันทันที
เพราะตอนนี้ใจฉันร้อนมาก เมื่อเห็นหน้าอีนังผู้หญิงคนนั้น
มันแย่งพี่ไปจากฉันได้แล้วจริงๆหรือนิ
วินาทีสุดท้ายที่ฉันยังมีพี่เรา3คนนั่งเจรจากันภายในห้องครัว
ต่างคนต่างนั่งเงียบ
ฉันจึงต้องเป็นฝ่ายถามก่อน
ทั้ง ๆที่ฉันยังไม่พร้อมที่จะถาม
แต่เหตุการณ์มันบีบบังคับ
เพราะว่าเวลานั้น ผู้หญิงคนนั้นมันมั่นอกมั่นใจมากมาย
มันคงรู้ว่าพี่จะเลือกมัน
มันถึงนิ่งได้ขนาดนั้น
ก็นั่นละนะ คนเขามันอยู่ใกล้กัน ก็เป็นธรรมดา เขาคงอุ่นใจที่ได้ตัวพี่
คำถามแรกที่ฉันถาม
"ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร"
พี่บอกว่าเป็นใครก็ไม่รู้เหมือนกัน
เยงแต่ว่าเวลาอยู่ด้วยและทำงานด้วยแล้วสบายใจ
"พี่ชอบเขาไหม"
ไม่ชอบและไม่ได้รักด้วย และย็อีกว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ
ทีนี้พอถามว่าแล้วฉันล่ะ
พี่บอกว่ายัง"รัก"
คำถามสุดท้ายแล้วทีนี้ "พี่เลือกใคร"
พี่บอกเลือกเขา
แต่ก่อนที่พี่จะบอก น้ำตาพี่ไหล พี่มองหน้าฉัน
น้ำตาพี่ไหล ฉันก็ไม่ไหวแล้ว กลั้นไว้ไม่ไหวแล้ว ปล่อยให้มันไหลอยู่ต่อหน้าทั้งพี่และผู้หยิงคนนั้น (มันคงสะใจผู้หญิงคนนั้นมากมายที่สามารถเอาตัวพี่ไปได้)
พี่บอกว่ายังรักฉันแต่ทำไมถึงเลือกเขา
เบื้องหลังคือสงครามการเมืองเราสองคนต่างก็ร้องไห้ไม่หยุด
พี่บอกว่าในเมื่อฉันด่าว่าให้ไม่ดีขนาดนั้น พี่ก็คงไม่กล้าเลือกฉันหรอก
และบอกว่าฉันไปผิดเวลา
สารพัดข้ออ้างเลยทีนี้
ฉันขอคุยกะพี่สองคน
ก่อนหน้าหนึ่งวัน พี่ส่งข้อความสั้นๆมาว่า
"สงครามการเมืองที่ต้องอดทน"
ฉันพอจะรู้ว่าเป็นเรื่องสังคมครูที่นั่น เรื่องพี่ต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น
พี่บอกกับฉันอีกว่า ที่พี่ต้องเลือกเขาเพราะว่าเป็นสงครามการเมือง
พี่จำเป็นต้องเลือกเขา เพื่อจะได้เข้าและอยู่กะสังคมนั้นได้
แล้วฉันล่ะ พี่ทิ้งไปง่ายๆแบบนี้เลยหรือ
พี่บอกว่าช่วงนี้เราก็ห่างกันสักพักละกัน
ให้พี่พิสูจน์ตัวเองว่าจริงๆแล้วการที่พี่ไม่มีฉัน พี่จะโหยหาไหม
(แต่ฉันว่าเป็นเพราะว่าพี่เบื่อฉันแล้สมากกว่า พอมีคนใหม่ พี่ก็สะบัดคนเก่าทิ้งทันที เป็นแบบนี้มาหลายคนแล้ว ได้ยินจากปากแฟนเก่าพี่เองเลย)
พี่บอกว่าห้ามไปพูดเรื่องสงครามการเมืองให้ผู้หญิงคนนั้น
พี่บอกว่ายังรักกัน
ฉะนั้นฉันจึงยังไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้
เพราะว่าในเมื่อเราสองคนรักกัน แต่พี่ต้องไปเลือกคนนั้นเพราะเรื่องสังคม
ฉันก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน
ฉันอยากเอาพี่ออกจากตรงนั้น
พี่ตัดสินใจลงมาส่งฉันข้างล่าง
มาพักข้างล่างด้วยกัน
ผู้หยิงคนนั้นมาถามตอนที่ฉันกับพี่จะลงมาว่าสรุปแล้วจะเอายังไง
พี่บอกว่ายังไงก็ไม่เหมือนเดิมกะฉันแล้ว
แต่ฉันบอกกับเขาว่าที่พี่เลือกมันเพราะมีอะไรบางอย่าง เป็นสงครามการเมือง
พี่ไม่ได้รักเขา ฉะนั้นฉันไม่สามารถตัดพี่เขาได้หรอก
ผู้หยิงคนนั้นบอกว่าให้ฉันพักบนรร.กับมันก็ได้
มันจะไม่ให้ฉันลงมา
เพราะมันไม่อยากให้พี่ลงมาด้วย
แต่พี่ก็ยืนยันว่าจะลงมาส่งฉัน
และฉันก็พูดชัดเจนตรงนั้นว่า
ฉันจะยังเหมือนเดิมกับพี่
และบอกกับมันว่าช่วงนี้เราคงเจอกันบ่อยขึ้นนะ
และยังไงฉันก็ไม่ปล่อยพี่หรอก ฉันยอมให้พี่มีมันได้
แต่มันบอกว่ามันยอมไม่ได้
มันเป็นเดือดเป็นร้อน
ฉันและพี่ขี่มอไซค์ลงมาที่ตัวอำเภอ
ออกจากเมืองผีออกจากเมืองผีตอนค่ำ มันมืดแล้ว ฉันเตรียมเก็บกระเป๋าให้พี่ เอากางเกงขาสั้น เสื้อยืดของพี่ใส่กระเป๋า
พร้อใของใช้ที่จำเป็นต่อหน้าผู้หยิงคนนั้น
มันหน้าบึ้ง (ยัยหน้าอึ่งอ่าง)
เราขับรถคู่กันลงมาตลอดทาง
อากาศเย็นเหลือเกินข้างบนนั้น
นี่ฉันได้ตัวพี่มาแล้ว
แต่ว่าไม่อยากนึกถึงวันพรุ่งนี้เลย
วันที่ฉันต้องจากพี่มาจริงๆ
เรามาพักห้องพักด้วยกัน
พี่บอกว่าเรายังคบกันเมื่อเราอยู่ด้วยกัน
คืนนั้นแหละ ร้องไห้ปล่อยโฮ
แต่พี่ก็เงียบ
ฉันจึงต้องโทหาใครหลายคนที่ฉันสามารถอุ่นใจได้
พี่ยังมาบอกว่าฉันฟ้องผู้ปกครองทำไม?
พี่ยังบอกกะฉันอีกว่า
พี่ยังอยากไปเที่ยวบ้านฉันอีก
เฮ้อ
นี่ฉันเป็นไรไป
เรื่องราวข้างหน้าจะเป็นยังไง
ไม่สามารถรู้ได้เลย
เมือ่ออกจากเมืองผีได้แล้ว
ฉันหลั่งน้ำตาหหลายรอบ
กว่าจะขี่มอไซค์ลงมาได้
ฉันต้องจอดรถเพื่อเอากำลังใจจากเพื่อนที่อยุ่ทางไกล
ฉันอยากจะบอกว่า
ระหว่างลงมาจากอ.ชาติตระการ
ฉันสามารถมองเห็นต้นไม้ และสามารถสัมผัสมันได้
มันช่างวิเศษเหลือเกินหรือว่าฉันสามารถเอาชนะใจตัวเองได้แล้ว
หรือว่ายังแค้นใจอยู่นะ
ต้องเฝ้าดูจิตใจตัวเองต่อไป