27 ตุลาคม 2553
เกือบ 1เดือนละ ที่เราไม่ได้คุยกัน
ตั้งแต่วันนั้น
วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2553 เวลา 12.45 น.
สายตาเธอวันนั้นบอกให้รู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน
ฉันเสียเธอไปแล้ว
มิตรภาพดีๆ ที่เราเคยมีมันจางหาย
เพราะฉันใจไม่แข็งพอ
ฉันรู้ตัวเองดี ว่าไม่คู่ควรกับเธอ
แต่ก็บังอาจไปคิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อน
พอเธอรู้เข้า เท่านั้นละ เอก็บอกว่าจะหายไปจากชีวิตฉัน
เธอบอกว่า เธอไม่อยากเห็นฉันต้องเจ็บปววดเพราะเธอ
เธอเลือกที่จะเดิน และหายไปจากชีวิตฉันเอง
แม้แต่ความเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง เธอก้ไม่เหลือไว้
เธอเดินไป ก้าวไปอย่างสง่า เธอไปได้สวยเชียว
คิดแล้วเจ็บจิ๊ด
ทำไมเรื่องราวต้องจบลงแบบแย่ๆ
ฉันไม่ควรบอกเธอถึงความลับทั้งหมด
ฉันควรเก็บความลับไว้กับตัวเอง และให้มันจมอยู่กับตัวเองไปจนวันสุดท้าย
หากฉันทำแบบนั้นได้จริง
ฉันคงได้คุยกับเธอ และมีเธอเหมือนเดิม
ตั้งแต่เราจากกันวันนั้น ฉันไม่มีกำลังใจทำอไร
ฉันคิดถึงเธอ
ฉันเสียใจ
ปวดหัว ชีวิตไม่รู้จะไปทางไหนดี
เมื่อเขายังมาวนเวียนอยู่ไม่ไกลตลอด
แต่ทำฉันยังคิดถึงแต่เธอ
ได้แต่รอ
รอว่า สักวันหนึ่ง
ฉันจะได้เจอเธอโดยบังเอิญที่โลตัสอีก
วันที่เธอกลับจากทะเล ก็จะไม่มีวันรู้
วันที่เธอกลับมาบ้านฉันก็ไม่มีวันรู้
ทะเลเป็นอย่างไร ก็ไม่อาจรู้
เมื่อไม่ตัวกลาง
เธอหายไปแล้ว
เธออยู่ที่ไหนสักแห่ง
ฉันรู้ว่าที่ไหน
แต่ไม่อาจรับรู้ได้เลยว่า
ที่ตรงนั้นเป็นเช่นใด
ฉันคิดถึงเธอจริงๆๆ
ผู้ติดตาม
วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553
บันทึกถึงทะเล 6
วันที่15 กันยายน 2553
เวลา 17.35 น.
กลับจากออฟฟิส มาได้สักพักละ
The more I see you The more I love you… แม้จะเป็นเพียงแค่ในฝัน
เมื่อคืนฉันฝันเห็นเทอ อีกแล้ว
แต่ว่าฝันครั้งนี้ ให้ความรู้สึกดีกว่าครั้งก่อนมาก
ในฝัน เทอจ้องมองมาที่ตาฉัน
เทอบอกให้ฉันมองตาเทอกลับ
ตัวฉันสั่น หวั่นไหว
ในฝัน เทอก็ชอบฉัน และเทอก็แสดงท่าทีรู้ว่าฉันก็ชอบเทอ
ฉันมองตาเทอ
เขิน อาย ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
เทอเอามือมาลูบที่แก้มสองข้างของฉัน
ฉันมองเข้าไปที่ลูกตาตี๋ๆสองข้างของเทอ
เทอก็รู้สึกดีกับฉันมากพอกัน
ฉันสะดุ้งตื่นจากฝัน
เป็นแค่ฝันอีกแล้ว
ฝันที่ไม่มีวันจะเป้นจริงได้
เทอ คนที่ไม่เคยหัวใจให้ใคร
เทอไม่เหมือนใคร
เมื่อก่อน ไม่ชอบวิศวะเลย ดว้ยเหตุผล อคติ มากมาย
แต่เทอ…
เป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าคนที่เรียนวิศวะ ไม่ได้เซอร์เพียงอย่างเดียว
ยังติสต์อีกต่างหาก
โลกส่วนตัวสูงมาก
เป็นผู้ชายที่ง่ายๆ ติดดิน
ชิล ชิล
สบาย สบาย
เป็นคนมองโลกในแง่ดี
เป็นคนมีเหตุมีผล
เป็นคนใจเย็น อ่อนโยน
มีความเป็นสุภาพบุรุษมากกกกๆๆ ขอย้ำ
อยู่ใกล้ชิดแล้วอบอุ่น
สบายใจเวลาคุยด้วย
อยากมีเทอในทุกๆวัน อยู่ตรงนี้
ไปตลอด.................
แต่
เทอไม่รัก
เทอไม่รักเลย
เทอไม่ได้รักกันเลย
เทอให้เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
มีแต่ภาพเทอลอยมา
ฉันสับสน
ฉันควรจะรักเทอต่อไปไหม
หรือไม่ควรคิดอีกต่อไป
เวลา 17.35 น.
กลับจากออฟฟิส มาได้สักพักละ
The more I see you The more I love you… แม้จะเป็นเพียงแค่ในฝัน
เมื่อคืนฉันฝันเห็นเทอ อีกแล้ว
แต่ว่าฝันครั้งนี้ ให้ความรู้สึกดีกว่าครั้งก่อนมาก
ในฝัน เทอจ้องมองมาที่ตาฉัน
เทอบอกให้ฉันมองตาเทอกลับ
ตัวฉันสั่น หวั่นไหว
ในฝัน เทอก็ชอบฉัน และเทอก็แสดงท่าทีรู้ว่าฉันก็ชอบเทอ
ฉันมองตาเทอ
เขิน อาย ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
เทอเอามือมาลูบที่แก้มสองข้างของฉัน
ฉันมองเข้าไปที่ลูกตาตี๋ๆสองข้างของเทอ
เทอก็รู้สึกดีกับฉันมากพอกัน
ฉันสะดุ้งตื่นจากฝัน
เป็นแค่ฝันอีกแล้ว
ฝันที่ไม่มีวันจะเป้นจริงได้
เทอ คนที่ไม่เคยหัวใจให้ใคร
เทอไม่เหมือนใคร
เมื่อก่อน ไม่ชอบวิศวะเลย ดว้ยเหตุผล อคติ มากมาย
แต่เทอ…
เป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าคนที่เรียนวิศวะ ไม่ได้เซอร์เพียงอย่างเดียว
ยังติสต์อีกต่างหาก
โลกส่วนตัวสูงมาก
เป็นผู้ชายที่ง่ายๆ ติดดิน
ชิล ชิล
สบาย สบาย
เป็นคนมองโลกในแง่ดี
เป็นคนมีเหตุมีผล
เป็นคนใจเย็น อ่อนโยน
มีความเป็นสุภาพบุรุษมากกกกๆๆ ขอย้ำ
อยู่ใกล้ชิดแล้วอบอุ่น
สบายใจเวลาคุยด้วย
อยากมีเทอในทุกๆวัน อยู่ตรงนี้
ไปตลอด.................
แต่
เทอไม่รัก
เทอไม่รักเลย
เทอไม่ได้รักกันเลย
เทอให้เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
มีแต่ภาพเทอลอยมา
ฉันสับสน
ฉันควรจะรักเทอต่อไปไหม
หรือไม่ควรคิดอีกต่อไป
บันทึกถึงทะเล 5
14 กันยายน 2553 เวลา 20.10 น.
เพิ่งกินมื้อเย็นเสร็จ
เหนื่อยมาทั้งวัน
งานด่วนเสิร์ฟมาเรื่อยๆ
หน้ามืด
ปวดหัว เป็นไข้
มาหลายวัน ตั้งแต่ที่ไม่ได้คุยกับเทอ
เวลาอย่างนี้
หากได้พูดคุยกับเทอบ้างคงจะดี
คงหายจากไข้
คงหายเหนื่อย
คุยกับผู้คนมากมาย
แต่ไม่มีใครที่ฉันจะอุ่นใจ
เหมือนเทอ
ตอนนี้เทอคงไม่อยากพูดคุยกับฉัน
ตั้งแต่ฉันส่งไฟล์เพลง ไปให้เทอ
เทอก็มีท่าทีห่างเหิน
เวลาคุย เทอเริ่มคุยสั้นลง
เทอบอกฉันว่าที่โทรมานั้น ไม่ใช่อะไร แต่ที่โทรมาเพียงแค่ต้องการคุยเรื่องทั่วไป
เฮ้อออ คงมาย้ำให่เรารู้ ว่าไม่ควรคิดอะไรมากไปกว่านี้
ความรักเพิ่งเริ่มเข้ามา
แต่แล้วก้ไปซะแล้ว (น้ำตาไหล)
อยากให้ความรักอยู่กับฉัน
แต่ก่อนก็ฝัน ฝัน ฝัน เพียงผู้เดียว
เดี๋ยวนี้ฝันคนเดียวไม่ค่อยได้ ถ้าหากไม่มีเทอเคียงข้าง จะหลับตาเท่าไหร่ก็คงไม่ฝัน
คิดถึง
อยากพูดดคุย
เพิ่งเริ่มรัก
แต่เป็นรักข้างเดียว
ฝันหวานเพียงคนเดียว
หลายวันนี้เทอไม่โทหาฉัน
ฉันก็ไม่กล้าโทไปหาเทอ
ได้แต่รอ รอ รอ
รอโทสับจากเทอ
การที่ไม่ได้คุยกับเทอตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน
เพราะหากคุยกับเทอตอนนี้
ฉันอาจเผลอแสดงน้ำเสียงที่บ่งบอกความในออกมา
ให้มันเป็นเพียงลมวูบเดียวที่พัดผ่านมา
ให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
เพียงเท่านี้ ก็คงจะดีกว่านี้
เมื่อก่อนอยากโท ก็โท ไม่ได้คิดอะไร
แต่เดี๋ยวนี้อยากโท ก็ไม่กล้าโท
กลัวเทอรู้
กลัวเทอรู้ความในใจ
ปล่อยให้ความรัก คุกรุ่นอยู่ในใจฉันคนเดียวก็พอ
เพิ่งกินมื้อเย็นเสร็จ
เหนื่อยมาทั้งวัน
งานด่วนเสิร์ฟมาเรื่อยๆ
หน้ามืด
ปวดหัว เป็นไข้
มาหลายวัน ตั้งแต่ที่ไม่ได้คุยกับเทอ
เวลาอย่างนี้
หากได้พูดคุยกับเทอบ้างคงจะดี
คงหายจากไข้
คงหายเหนื่อย
คุยกับผู้คนมากมาย
แต่ไม่มีใครที่ฉันจะอุ่นใจ
เหมือนเทอ
ตอนนี้เทอคงไม่อยากพูดคุยกับฉัน
ตั้งแต่ฉันส่งไฟล์เพลง ไปให้เทอ
เทอก็มีท่าทีห่างเหิน
เวลาคุย เทอเริ่มคุยสั้นลง
เทอบอกฉันว่าที่โทรมานั้น ไม่ใช่อะไร แต่ที่โทรมาเพียงแค่ต้องการคุยเรื่องทั่วไป
เฮ้อออ คงมาย้ำให่เรารู้ ว่าไม่ควรคิดอะไรมากไปกว่านี้
ความรักเพิ่งเริ่มเข้ามา
แต่แล้วก้ไปซะแล้ว (น้ำตาไหล)
อยากให้ความรักอยู่กับฉัน
แต่ก่อนก็ฝัน ฝัน ฝัน เพียงผู้เดียว
เดี๋ยวนี้ฝันคนเดียวไม่ค่อยได้ ถ้าหากไม่มีเทอเคียงข้าง จะหลับตาเท่าไหร่ก็คงไม่ฝัน
คิดถึง
อยากพูดดคุย
เพิ่งเริ่มรัก
แต่เป็นรักข้างเดียว
ฝันหวานเพียงคนเดียว
หลายวันนี้เทอไม่โทหาฉัน
ฉันก็ไม่กล้าโทไปหาเทอ
ได้แต่รอ รอ รอ
รอโทสับจากเทอ
การที่ไม่ได้คุยกับเทอตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน
เพราะหากคุยกับเทอตอนนี้
ฉันอาจเผลอแสดงน้ำเสียงที่บ่งบอกความในออกมา
ให้มันเป็นเพียงลมวูบเดียวที่พัดผ่านมา
ให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
เพียงเท่านี้ ก็คงจะดีกว่านี้
เมื่อก่อนอยากโท ก็โท ไม่ได้คิดอะไร
แต่เดี๋ยวนี้อยากโท ก็ไม่กล้าโท
กลัวเทอรู้
กลัวเทอรู้ความในใจ
ปล่อยให้ความรัก คุกรุ่นอยู่ในใจฉันคนเดียวก็พอ
บันทึกถึงทะเล 4
5 กันยายน 2553 21.30 น.
เทอโทรมาหาฉัน
ฉันยิ้ม แอบดีใจ
เทอโทมาถามว่าฉันรู้จักคอนโดชมตะวันแถวมน.หรือไม่
เทอเห็นประกาศในเน็ต
เทอสนใจซื้อ
อยากให้เทอได้ซื้อคอนโดไว้แถวนี้จัง
อยากเจอเทออีกเร็วๆ
กลั้นอารมณ์ข่มใจไม่ให้รักเทอมากไป
ทั้งที่ใจมันยังอยากไปพูดว่ารักอยู่
ไม่กล้าบอกว่า I want You
ได้แค่เพียงแอบรักเทอแบบนี้
แอบลุ้น ว่าเทอจะคิดตรงกันไหม
เทอโทรมาหาฉัน
ฉันยิ้ม แอบดีใจ
เทอโทมาถามว่าฉันรู้จักคอนโดชมตะวันแถวมน.หรือไม่
เทอเห็นประกาศในเน็ต
เทอสนใจซื้อ
อยากให้เทอได้ซื้อคอนโดไว้แถวนี้จัง
อยากเจอเทออีกเร็วๆ
กลั้นอารมณ์ข่มใจไม่ให้รักเทอมากไป
ทั้งที่ใจมันยังอยากไปพูดว่ารักอยู่
ไม่กล้าบอกว่า I want You
ได้แค่เพียงแอบรักเทอแบบนี้
แอบลุ้น ว่าเทอจะคิดตรงกันไหม
วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ไม้ขีดไฟแอบรักดอกทานตะวัน
ฉัน ไม้ขีดไฟ ก้านน้อยผู้เดียวดาย
แอบรักดอกทานตะวัน
แรกแย้มยามบาน อวดแสงตะวัน
ช่างงดงามเกินจะเอ่ย
ดอกเหลืองอำพัน ไม่หันมามอง
แม้เหลียวมา ยังไม่เคย
ฉัน เลยได้แต่ฝัน ข้างเดียว
ดอกไม้จะบาน และหันไปตาม
แต่แสงจากดวงอาทิตย์
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา
เพียงปรารถนา ให้มีลำแสง สีทอง
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา ดอกทานตะวัน หันมอง
สักครั้ง
แอบรักดอกทานตะวัน
แรกแย้มยามบาน อวดแสงตะวัน
ช่างงดงามเกินจะเอ่ย
ดอกเหลืองอำพัน ไม่หันมามอง
แม้เหลียวมา ยังไม่เคย
ฉัน เลยได้แต่ฝัน ข้างเดียว
ดอกไม้จะบาน และหันไปตาม
แต่แสงจากดวงอาทิตย์
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา
เพียงปรารถนา ให้มีลำแสง สีทอง
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา ดอกทานตะวัน หันมอง
สักครั้ง
วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553
Fallin for u
I don’t know but
I think I maybe
Fallin’ for you
Dropping so quickly
Maybe I should
Keep this to myself
Waiting ’til I Know you better
I am trying Not to tell you
But I want to
I’m scared of what you’ll say
So I’m hiding what I’m feeling
But I’m tired of
Holding this inside my head
I’ve been spending all my time
Just thinking about you
As I’m standing here
And you hold my hand
Pull me towards youAnd we start to dance
All around us
I see nobody
Here in silence
It’s just you and me
I think I maybe
Fallin’ for you
Dropping so quickly
Maybe I should
Keep this to myself
Waiting ’til I Know you better
I am trying Not to tell you
But I want to
I’m scared of what you’ll say
So I’m hiding what I’m feeling
But I’m tired of
Holding this inside my head
I’ve been spending all my time
Just thinking about you
As I’m standing here
And you hold my hand
Pull me towards youAnd we start to dance
All around us
I see nobody
Here in silence
It’s just you and me
วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553
บันทึกถึงทะเล ภาค 3
7 กันยายน 2553
ฉันอยากบอกความในใจให้เทอ
แต่ฉันก็ไม่กล้า
เพื่อนเลยแนะนำให้ฉันส่งเพลงถึงเทอ
ฉันตกลงส่งเพลง "คำถาม" ของท๊อฟฟี่ ให้เทอทางเมล
ความหมายประมาณว่า
เมื่อฉันนั้นได้พบเธอ
ก็รู้สึกว่ารักแต่ให้ความหมายไม่ได้
ก็ไม่รู้ว่าจะนิยามอย่างไร มันเป็นข้อความลึกๆของใจ
จะถามว่าหน้าตาเป็นแบบไหน ฉันคิดว่าคงหน้าตาเหมือนเธอ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันยิ้มได้
ช่วยฉันให้มีความสุขไม่ว่าอยู่ไหน
เธอรู้ไหม ทุกครั้งที่ใกล้เธอเป็นแบบนี้
ไม่รู้เทอจะได้เข้าไปเช็คเมลตอนไหนเลย
และถ้าเทอเห็นเมลนั่น เทอจะเปิดฟังไหม
และถ้าเทอฟัง
เทอจะรู้ความในใจฉันไหม
และถ้าเทอรู้ เทอจะแสดงตอบกลับมาไหม
8 กันยายน 2553
เงียบ 1วัน
9 กันยายน 2553เวลา 20.42 น.
เทอโทรมาสั้นๆ
ไม่ทันได้รับ เพราะทำธุระอยู่
ฉันเลยกดโทรกลับไป
และเทอก็โทรกลับมา
เทอบอกว่าที่โทรมา ไม่ใช่อะไรหรอก แต่วันก่อนเห็นเราเคืองที่เทอถามว่าเหงา เลยแค่อยากโทรมาว่ายังเคืองอยู่หรือป่าว
เทอบอกว่าอยากรู้ว่าเราจะรับโทสับเทอหรือป่าวเท่านั้นเอง...
หมายความว่ายังไงน๊า
แล้วเทอก็บอกว่าให้เราชวนเทอคุย และคุย
เทอกินส้มไปด้วย
เทอบอกว่าจะเอาหนังมาให้ฉันดู
เรื่อง สามก๊ก
อืมมมม เราจะดูรู้เรื่องไหมเนี่ย
คืนนี้เราคุยสั้นๆ เพียง 1 ชม.
เทอเหนื่อย
เทอขอนอนก่อน
เซย์กูดไนท์
ฉันอยากบอกความในใจให้เทอ
แต่ฉันก็ไม่กล้า
เพื่อนเลยแนะนำให้ฉันส่งเพลงถึงเทอ
ฉันตกลงส่งเพลง "คำถาม" ของท๊อฟฟี่ ให้เทอทางเมล
ความหมายประมาณว่า
เมื่อฉันนั้นได้พบเธอ
ก็รู้สึกว่ารักแต่ให้ความหมายไม่ได้
ก็ไม่รู้ว่าจะนิยามอย่างไร มันเป็นข้อความลึกๆของใจ
จะถามว่าหน้าตาเป็นแบบไหน ฉันคิดว่าคงหน้าตาเหมือนเธอ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันยิ้มได้
ช่วยฉันให้มีความสุขไม่ว่าอยู่ไหน
เธอรู้ไหม ทุกครั้งที่ใกล้เธอเป็นแบบนี้
ไม่รู้เทอจะได้เข้าไปเช็คเมลตอนไหนเลย
และถ้าเทอเห็นเมลนั่น เทอจะเปิดฟังไหม
และถ้าเทอฟัง
เทอจะรู้ความในใจฉันไหม
และถ้าเทอรู้ เทอจะแสดงตอบกลับมาไหม
8 กันยายน 2553
เงียบ 1วัน
9 กันยายน 2553เวลา 20.42 น.
เทอโทรมาสั้นๆ
ไม่ทันได้รับ เพราะทำธุระอยู่
ฉันเลยกดโทรกลับไป
และเทอก็โทรกลับมา
เทอบอกว่าที่โทรมา ไม่ใช่อะไรหรอก แต่วันก่อนเห็นเราเคืองที่เทอถามว่าเหงา เลยแค่อยากโทรมาว่ายังเคืองอยู่หรือป่าว
เทอบอกว่าอยากรู้ว่าเราจะรับโทสับเทอหรือป่าวเท่านั้นเอง...
หมายความว่ายังไงน๊า
แล้วเทอก็บอกว่าให้เราชวนเทอคุย และคุย
เทอกินส้มไปด้วย
เทอบอกว่าจะเอาหนังมาให้ฉันดู
เรื่อง สามก๊ก
อืมมมม เราจะดูรู้เรื่องไหมเนี่ย
คืนนี้เราคุยสั้นๆ เพียง 1 ชม.
เทอเหนื่อย
เทอขอนอนก่อน
เซย์กูดไนท์
บันทึกถึงทะเล ภาค 2
5 กันยายน 2553 21.30 น. เทอโทรมาหาฉัน
ฉันยิ้ม แอบดีใจ
เทอโทมาถามว่าฉันรู้จักคอนโดชมตะวันแถวมน.หรือไม่
เทอเห็นประกาศในเน็ต
เทอสนใจซื้อ
อยากให้เทอได้ซื้อคอนโดไว้แถวนี้จัง
อยากเจอเทออีกเร็วๆ
กลั้นอารมณ์ข่มใจไม่ให้รักเทอมากไป
ทั้งที่ใจมันยังอยากไปพูดว่ารักอยู่
ไม่กล้าบอกว่า I want You
ได้แค่เพียงแอบรักเทอแบบนี้
แอบลุ้น ว่าเทอจะคิดตรงกันไหม
ฉันยิ้ม แอบดีใจ
เทอโทมาถามว่าฉันรู้จักคอนโดชมตะวันแถวมน.หรือไม่
เทอเห็นประกาศในเน็ต
เทอสนใจซื้อ
อยากให้เทอได้ซื้อคอนโดไว้แถวนี้จัง
อยากเจอเทออีกเร็วๆ
กลั้นอารมณ์ข่มใจไม่ให้รักเทอมากไป
ทั้งที่ใจมันยังอยากไปพูดว่ารักอยู่
ไม่กล้าบอกว่า I want You
ได้แค่เพียงแอบรักเทอแบบนี้
แอบลุ้น ว่าเทอจะคิดตรงกันไหม
บันทึกถึงทะเล
วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.32 น.
นั่งดื่มชาซีลอนในห้องพักเพียงลำพัง
ฟังดนตรีบรรเลง เพลง Head Over Heels In Love เพลง Soaring Larks และอื่นๆอีกหลายเพลงของ Silver frutes Lufthansa
คิดถึงเทอจับจิต
ตั้งใจไว้ว่าจะทำอะไรเพื่อตอบแทน หรือแทนคำขอบคุณที่เทอคอยให้คำแนะนำมาตลอด
นั่งถักผ้าพันคอด้วยอีซี่นิต ไหมพรมสีเขียว... ฉันคงต้องหาสีไหมพรมสีอื่นที่ดูเหมาะกับเทอมากกว่านี้
เทอจะชอบสีอะไรน๊า ถ้าหากเป็นผ้าพันคอ
และเทอจะชอบด้วยไหมน๊า
แต่ฉันอยากทำอะไรที่เป็นแฮนด์เมดให้เทอ
เทอคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ คอยให้คำแนะนำดีๆให้ฉันมาตลอด
พุดง่ายๆ ก็คือ เทอเป็น “เพื่อน” เป็น “พี่” ที่คอยช่วยคิดมาตลอด
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่เราได้รู้จักกัน
เดือนที่แล้วฉันฝันเห็นเทอ
ในฝัน...
เทอรักฉัน เทอแสดงออก
เทอสวมกอดจากด้านหลังฉันอย่างนุ่มนวล (พิมพ์ถึงตรงนี้ ฉันถึงกับน้ำตาไหล เพราะมันเป็นแค่ฝัน)
เทอกอดฉันฉันยิ้ม เทอยิ้ม เรายิ้มให้กัน
ฉันอบอุ่นหัวใจจนบอกไม่ถูก
ฉันกำลังแอบรักเทออย่างหมดหัวใจ
เทอจะรุ้บ้างไหมหนอ
แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝัน
ฉันต้องพยายามมากมาย
ที่จะไม่ให้ตัวเองกดโทรหาเทอ
ฉันไม่อยากโทรไปรบกวนเทอ
จำต้องลบโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์ของเทอทิ้งไป
เพราะคิดว่า ถ้าไม่ได้คุยกับเทอ ฉันคงห้ามใจไม่ให้ไปรักเทอได้
ซึ่งหลังจากนั้น ก็เศร้าหลายวัน ร้องไห้ คิดถึง ฝัน... ฉันฝันอยากเป็นคนนั้นของเทอ
สองวันถัดมา เทอก็โทรมา ว้า.. ความตั้งใจทั้งหมดที่จะไม่ติดต่อเทอก็หมด
ฉันดีใจที่ได้คุยกับเทอ
โลกทั้งใบเหมือนเป็นของเราสองคน
เทอเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยน ทัศนคติดี มองการณ์ไกล และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ฉันเห็นและสัมผัสได้
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าชอบเทอก็เป็นช่วงหน้าร้อนของปี 2010
หลังจากที่เราเจอกันและคุยกันอย่างถูกคอกันตลอดตั้งแต่ หน้าหนาว ปี 2008
(ตอนนี้ ฉันอยากกดโทรหาเทอมาก
แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเทอ และกลัวเทอจะรู้ความในใจ ฉันอยากคุยกับเทอ ก็จำต้องหาเรื่องที่ควรโทรคุยก่อน ถึงจะกล้าโทร...น้ำตาไหลอีกละ)
เวลา 17.50 น. วันพฤหัสที่19 สิงหาคม 2553 เรานัดเจอกันที่หอสมุด สถานที่นัดพบของเราสองคน
วันนั้นเทอใส่เสื้อสีขาว
ฉันใส่เสื้อสีโอรส
เทอตัดผมทรงใหม่
ผิวเทอขาวกว่าฉันเสียอีก คงเป็นเพราะเทอไม่ได้ออกมาดดนแดดเหมือนฉัน
เราเจอกันหน้าสำนักหอสมุด พร้อมโนตบุคคนละเครื่อง
ฉันเอาโนตบุคมา เพราะเทอเคยรับปากฉันไว้ว่าจะช่วยดูโนตบุคฉันที่กำลังมีปัญหาอยู่
เราก้าวเข้าไปในหอสมุดพร้อมๆกัน
(ฉันปลื้ม ฉันเพ้อถึงเทอตลอด)
เราเลือกที่นั่งที่ชั้น 2
และที่นี่ละ ที่เราได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด
เทอเป็นคนเสียบปลั๊กสายแบตโนตบุคให้ฉัน
เพราะเทอเห็นว่าไม่สมควรที่ผู้หญิงจะต้องก้มลงเสียบปลั๊กไฟ
เทอช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงๆ
ฉันยังไม่เคยเจอใครทำดี และคิดดีกับผุ้หญิงแบบนี้มาก่อน
ตอนแรกเรานั่งตรงกันข้ามกัน
สักพัก พอเทอหันโนตบุคของฉันไปดู เพื่อตรวจเช็คปัญหา
และเทอก็ได้เอาหนังมาให้ฉันดูหลายเรื่องเลยทีเดียว
เทอลองเปิดในเครื่องฉัน
และให้ฉันดู
ฉันจึงต้องเดินไปนั่งข้างๆเทอ
(ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ต้องคอยสะกดกลั้นเอาไว้ กลัวเทอรู้ความใน)
เทอเปิดหนัง
และพูด เล่าเรื่องย่อๆของหนังแต่ละเรื่องให้ฉันฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจกับทุกรายละเอียด
เทออยากให้ฉันได้ยินเสียงด้วย
จึงเอาหูฟังที่เทอเตรียมมาด้วยเสียบกับโนตบุค
แล้ววางลงบนโต๊ะ ฉันหยิบมาใส่หูเอง (หากเป็นเทอ ที่เป็นคนใส่หุฟังที่หูฉันคงดีมากเลย แต่ตอนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิด)
และแล้วสายฝนก็ลง
ตกลงมาหนักมาก
บรรยากาศช่างดีเหลือเกิน เมื่อมีเทออยู่ข้างกายฉัน
เทอเปิดหนัง และเล่าเรื่องย่อๆของหนังที่เทอโปรด เช่น เรื่อง The Roads ให้ฉันฟังตลอด
มือของเราเกือบถูกกันตลอด
เพราะเจ้าเม้าส์นี่ละ
เทอคอยรอจะจับเม้าส์ต่อจากฉัน
เมื่อมือเราอยู่ใกล้ๆกัน เหมือนไฟจะดูด รู้สึกขนลุกซู่
แต่ก็พยายามห้ามใจ ไม่ให้คิดไปอื่นไกล เราพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกัน
ฉันหันมองหน้าเทอ ในระยะ 10 ซม. ใกล้เหลือเกิน
ฉันมองหนวดเคราที่ผ่านการโกนมาอย่างดี
มองผิวหน้าเทอ มองริมฝีปากเทอ เวลาเทอพูด
เทอใส่แว่น ฉันจึงไม่เห็นแววตาของเทอ ข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ไหม
เกิดคำถามขึ้นมาตลอด แต่ไม่เคยกล้าถาม
ฉันหวั่นไหว (แต่ก้ต้องห้ามใจอีกละ)
เทอจะรู้สึกเหมือนฉันบ้างไหม
หลังจากนั้นเทอก็เอาข้อมูลโปรแกรม Advance Excel มาลงในเครื่องฉัน
เทอจะสอนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆให้ฉัน
แต่ว่าข้อมูลมันเยอะมาก
กว่าจะแตกไฟล์ได้ ต้องใช้เวลานานพอสมควร
และฉันก็หิวข้าวมากด้วย
เราจึงมีเวลานั่งใกล้กันเพียงแค่ 2 ชม.พอดี
เราไปดินเนอร์ต่อที่ร้านครัวฉลวย(หน้ามอ)
เราเลือกที่นั่งเดิม ที่เราเคยนั่ง
แต่วันนี้ฉันต้องหลบสายตาเทอมากขึ้น
ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองแสดงความรู้สึกออกทางสายตา
เรานั่งสักพัก
ก็มีน้องGee หลานของเทอมาสมทบด้วยอีกคน
เรานั่งกินข้าวด้วยกันสามคน
บอกตัวเองไม่ให้คิดเรื่องหวั่นไหว
22.00 น. เราแยกย้ายกัน
ฉันขอซ้อนมอไซค์น้อง Gee กลับหอ เพราะกลับทางเดียวกัน
ส่วนเทอ คงไปหาห้องพักในเมืองตามเคย เหมือนทุกครั้ง
กลับมาถึงหอ
คิดถึงเทอมาก
ตัดสินใจโทรหาเทอ
และตัดสินใจลบเบอร์เทอร์ทิ้ง
และร้องไห้ในที่สุด
ฉันเป็นอะไรไป
จะเป็นไปได้ไหม
ให้เทอกับฉัน “รักกัน”
ในสักวัน
ฉันจะรอ
แม้จะไม่เห็นความหวังเลย
จนตอนนี้เวลา 22.40 น. คิดถึงเทอ แต่เทอคงหลับแล้ว
เทอไม่ได้โทรมาหาฉัน
ฉันอยากโทรหาเทอ
แต่แล้วก็ไม่กล้า
ให้เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับฉันเพียงฝ่ายเดียว
ให้เทออย่าได้รับรู้เลยเชียว
เพราะถ้าเทอรู้เรื่องเข้า
ฉันคงไม่กล้าเจอหน้าเทออีกต่อไปเลยก็ได้
และฉันกลัวจะเสียมิตรดีๆอย่างเทอ
แต่แล้ว ก้ออดใจไม่ไหว
โทรหาเทอจนได้
เวลา 22.42 นง ฉันตัดสินใจโทรหาเทอ
และเทอก้โทรกลับมาหาฉัน
เราคุยกันนานชั่วโมงกว่า
24.00 น. เทอขอนอน เพราะต้องตื่นเช้าทำงาน
เราคุยกัน ฉันหัวเราะ เทอหัวเราะ
เทอแนะนำ ฉันปรึกษา เราต่างมีเรื่องคุยมากมาย
วันก่อนเทอบอกว่าอยากเลี้ยงกวาง
วันนี้เทอบอกว่าอยากทำนา
เทอถามฉันว่าจะทำนาไหวไหม
ฉันถามว่าทำไมถึงเป้นทำนา
เทอบอกว่าเทอจะไปทำนา
(พูดถึงตรงนี้ ก็อดคิดไม่ได้ ว่าเทอจะออกปากชวนฉันไปทำนาด้วยไหมน๊า)
เทอบอกว่าเทอมีความสุขที่ได้เดินบนคันนา
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรวงข้าว
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรางน้ำในนา
เทอมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางทุ่งนาข้าว
มันช่างตรงกับใจฉันเหลือเกิน
เทอเป็นคนละเอียดอ่อน
เทอรักอิสระ
เทอ
แล้วก็เทอ อยู่รอบๆฉันเต็มไปหมด
นั่งดื่มชาซีลอนในห้องพักเพียงลำพัง
ฟังดนตรีบรรเลง เพลง Head Over Heels In Love เพลง Soaring Larks และอื่นๆอีกหลายเพลงของ Silver frutes Lufthansa
คิดถึงเทอจับจิต
ตั้งใจไว้ว่าจะทำอะไรเพื่อตอบแทน หรือแทนคำขอบคุณที่เทอคอยให้คำแนะนำมาตลอด
นั่งถักผ้าพันคอด้วยอีซี่นิต ไหมพรมสีเขียว... ฉันคงต้องหาสีไหมพรมสีอื่นที่ดูเหมาะกับเทอมากกว่านี้
เทอจะชอบสีอะไรน๊า ถ้าหากเป็นผ้าพันคอ
และเทอจะชอบด้วยไหมน๊า
แต่ฉันอยากทำอะไรที่เป็นแฮนด์เมดให้เทอ
เทอคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ คอยให้คำแนะนำดีๆให้ฉันมาตลอด
พุดง่ายๆ ก็คือ เทอเป็น “เพื่อน” เป็น “พี่” ที่คอยช่วยคิดมาตลอด
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่เราได้รู้จักกัน
เดือนที่แล้วฉันฝันเห็นเทอ
ในฝัน...
เทอรักฉัน เทอแสดงออก
เทอสวมกอดจากด้านหลังฉันอย่างนุ่มนวล (พิมพ์ถึงตรงนี้ ฉันถึงกับน้ำตาไหล เพราะมันเป็นแค่ฝัน)
เทอกอดฉันฉันยิ้ม เทอยิ้ม เรายิ้มให้กัน
ฉันอบอุ่นหัวใจจนบอกไม่ถูก
ฉันกำลังแอบรักเทออย่างหมดหัวใจ
เทอจะรุ้บ้างไหมหนอ
แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝัน
ฉันต้องพยายามมากมาย
ที่จะไม่ให้ตัวเองกดโทรหาเทอ
ฉันไม่อยากโทรไปรบกวนเทอ
จำต้องลบโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์ของเทอทิ้งไป
เพราะคิดว่า ถ้าไม่ได้คุยกับเทอ ฉันคงห้ามใจไม่ให้ไปรักเทอได้
ซึ่งหลังจากนั้น ก็เศร้าหลายวัน ร้องไห้ คิดถึง ฝัน... ฉันฝันอยากเป็นคนนั้นของเทอ
สองวันถัดมา เทอก็โทรมา ว้า.. ความตั้งใจทั้งหมดที่จะไม่ติดต่อเทอก็หมด
ฉันดีใจที่ได้คุยกับเทอ
โลกทั้งใบเหมือนเป็นของเราสองคน
เทอเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยน ทัศนคติดี มองการณ์ไกล และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ฉันเห็นและสัมผัสได้
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าชอบเทอก็เป็นช่วงหน้าร้อนของปี 2010
หลังจากที่เราเจอกันและคุยกันอย่างถูกคอกันตลอดตั้งแต่ หน้าหนาว ปี 2008
(ตอนนี้ ฉันอยากกดโทรหาเทอมาก
แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเทอ และกลัวเทอจะรู้ความในใจ ฉันอยากคุยกับเทอ ก็จำต้องหาเรื่องที่ควรโทรคุยก่อน ถึงจะกล้าโทร...น้ำตาไหลอีกละ)
เวลา 17.50 น. วันพฤหัสที่19 สิงหาคม 2553 เรานัดเจอกันที่หอสมุด สถานที่นัดพบของเราสองคน
วันนั้นเทอใส่เสื้อสีขาว
ฉันใส่เสื้อสีโอรส
เทอตัดผมทรงใหม่
ผิวเทอขาวกว่าฉันเสียอีก คงเป็นเพราะเทอไม่ได้ออกมาดดนแดดเหมือนฉัน
เราเจอกันหน้าสำนักหอสมุด พร้อมโนตบุคคนละเครื่อง
ฉันเอาโนตบุคมา เพราะเทอเคยรับปากฉันไว้ว่าจะช่วยดูโนตบุคฉันที่กำลังมีปัญหาอยู่
เราก้าวเข้าไปในหอสมุดพร้อมๆกัน
(ฉันปลื้ม ฉันเพ้อถึงเทอตลอด)
เราเลือกที่นั่งที่ชั้น 2
และที่นี่ละ ที่เราได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด
เทอเป็นคนเสียบปลั๊กสายแบตโนตบุคให้ฉัน
เพราะเทอเห็นว่าไม่สมควรที่ผู้หญิงจะต้องก้มลงเสียบปลั๊กไฟ
เทอช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงๆ
ฉันยังไม่เคยเจอใครทำดี และคิดดีกับผุ้หญิงแบบนี้มาก่อน
ตอนแรกเรานั่งตรงกันข้ามกัน
สักพัก พอเทอหันโนตบุคของฉันไปดู เพื่อตรวจเช็คปัญหา
และเทอก็ได้เอาหนังมาให้ฉันดูหลายเรื่องเลยทีเดียว
เทอลองเปิดในเครื่องฉัน
และให้ฉันดู
ฉันจึงต้องเดินไปนั่งข้างๆเทอ
(ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ต้องคอยสะกดกลั้นเอาไว้ กลัวเทอรู้ความใน)
เทอเปิดหนัง
และพูด เล่าเรื่องย่อๆของหนังแต่ละเรื่องให้ฉันฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจกับทุกรายละเอียด
เทออยากให้ฉันได้ยินเสียงด้วย
จึงเอาหูฟังที่เทอเตรียมมาด้วยเสียบกับโนตบุค
แล้ววางลงบนโต๊ะ ฉันหยิบมาใส่หูเอง (หากเป็นเทอ ที่เป็นคนใส่หุฟังที่หูฉันคงดีมากเลย แต่ตอนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิด)
และแล้วสายฝนก็ลง
ตกลงมาหนักมาก
บรรยากาศช่างดีเหลือเกิน เมื่อมีเทออยู่ข้างกายฉัน
เทอเปิดหนัง และเล่าเรื่องย่อๆของหนังที่เทอโปรด เช่น เรื่อง The Roads ให้ฉันฟังตลอด
มือของเราเกือบถูกกันตลอด
เพราะเจ้าเม้าส์นี่ละ
เทอคอยรอจะจับเม้าส์ต่อจากฉัน
เมื่อมือเราอยู่ใกล้ๆกัน เหมือนไฟจะดูด รู้สึกขนลุกซู่
แต่ก็พยายามห้ามใจ ไม่ให้คิดไปอื่นไกล เราพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกัน
ฉันหันมองหน้าเทอ ในระยะ 10 ซม. ใกล้เหลือเกิน
ฉันมองหนวดเคราที่ผ่านการโกนมาอย่างดี
มองผิวหน้าเทอ มองริมฝีปากเทอ เวลาเทอพูด
เทอใส่แว่น ฉันจึงไม่เห็นแววตาของเทอ ข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ไหม
เกิดคำถามขึ้นมาตลอด แต่ไม่เคยกล้าถาม
ฉันหวั่นไหว (แต่ก้ต้องห้ามใจอีกละ)
เทอจะรู้สึกเหมือนฉันบ้างไหม
หลังจากนั้นเทอก็เอาข้อมูลโปรแกรม Advance Excel มาลงในเครื่องฉัน
เทอจะสอนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆให้ฉัน
แต่ว่าข้อมูลมันเยอะมาก
กว่าจะแตกไฟล์ได้ ต้องใช้เวลานานพอสมควร
และฉันก็หิวข้าวมากด้วย
เราจึงมีเวลานั่งใกล้กันเพียงแค่ 2 ชม.พอดี
เราไปดินเนอร์ต่อที่ร้านครัวฉลวย(หน้ามอ)
เราเลือกที่นั่งเดิม ที่เราเคยนั่ง
แต่วันนี้ฉันต้องหลบสายตาเทอมากขึ้น
ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองแสดงความรู้สึกออกทางสายตา
เรานั่งสักพัก
ก็มีน้องGee หลานของเทอมาสมทบด้วยอีกคน
เรานั่งกินข้าวด้วยกันสามคน
บอกตัวเองไม่ให้คิดเรื่องหวั่นไหว
22.00 น. เราแยกย้ายกัน
ฉันขอซ้อนมอไซค์น้อง Gee กลับหอ เพราะกลับทางเดียวกัน
ส่วนเทอ คงไปหาห้องพักในเมืองตามเคย เหมือนทุกครั้ง
กลับมาถึงหอ
คิดถึงเทอมาก
ตัดสินใจโทรหาเทอ
และตัดสินใจลบเบอร์เทอร์ทิ้ง
และร้องไห้ในที่สุด
ฉันเป็นอะไรไป
จะเป็นไปได้ไหม
ให้เทอกับฉัน “รักกัน”
ในสักวัน
ฉันจะรอ
แม้จะไม่เห็นความหวังเลย
จนตอนนี้เวลา 22.40 น. คิดถึงเทอ แต่เทอคงหลับแล้ว
เทอไม่ได้โทรมาหาฉัน
ฉันอยากโทรหาเทอ
แต่แล้วก็ไม่กล้า
ให้เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับฉันเพียงฝ่ายเดียว
ให้เทออย่าได้รับรู้เลยเชียว
เพราะถ้าเทอรู้เรื่องเข้า
ฉันคงไม่กล้าเจอหน้าเทออีกต่อไปเลยก็ได้
และฉันกลัวจะเสียมิตรดีๆอย่างเทอ
แต่แล้ว ก้ออดใจไม่ไหว
โทรหาเทอจนได้
เวลา 22.42 นง ฉันตัดสินใจโทรหาเทอ
และเทอก้โทรกลับมาหาฉัน
เราคุยกันนานชั่วโมงกว่า
24.00 น. เทอขอนอน เพราะต้องตื่นเช้าทำงาน
เราคุยกัน ฉันหัวเราะ เทอหัวเราะ
เทอแนะนำ ฉันปรึกษา เราต่างมีเรื่องคุยมากมาย
วันก่อนเทอบอกว่าอยากเลี้ยงกวาง
วันนี้เทอบอกว่าอยากทำนา
เทอถามฉันว่าจะทำนาไหวไหม
ฉันถามว่าทำไมถึงเป้นทำนา
เทอบอกว่าเทอจะไปทำนา
(พูดถึงตรงนี้ ก็อดคิดไม่ได้ ว่าเทอจะออกปากชวนฉันไปทำนาด้วยไหมน๊า)
เทอบอกว่าเทอมีความสุขที่ได้เดินบนคันนา
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรวงข้าว
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรางน้ำในนา
เทอมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางทุ่งนาข้าว
มันช่างตรงกับใจฉันเหลือเกิน
เทอเป็นคนละเอียดอ่อน
เทอรักอิสระ
เทอ
แล้วก็เทอ อยู่รอบๆฉันเต็มไปหมด
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ถูกกอดอย่างละมุนละม่อม
เมื่อวาน
เวลา 08.30-14.30 น. เหนื่อย เครียด งานด่วน เอกสารเต็มโต๊ะ
นั่งหน้าจอคอม มีแต่ตารางสี่เหลี่ยมเล็กเต็มไปหมด (เครียดมา สองอาทิตย์ละ)
มึนหัวกับการจัดการข้อมูลใน Excel มาก
อีกอย่าง มันต้องส่งก่อน 16.30 น.
เวลา14.30 น. หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์เธอขึ้น เธอนัดเจอกันหลังเลิกงาน ว้าววว วิเศษ...เหลือเกิน
15.00 น. งานเสร็จแล้ว ส่งแล้ว
ตื่นเต้นที่จะได้เจอเทอ ในอีก 2 ชั่วโมง
ยิ้มได้แล้ว หลังจากที่เครียดมาหลายวัน รวมเวลากว่าค่อนวันที่นั่งเครียดอยู่กับงาน
16.30น. ใจเต้น ตุ้มๆๆ ต่อมๆๆ
จะได้เจอเทอแล้ว
พอเจอหน้าเทอคราวนี้ จะเป็นอย่างไรนะ
เราจะซ่อนความรู้สึกของตัวเอง ได้อยู่ไหม
เมื่อต้องอยู่ตรงหน้าเทอ เทอจะรู้ได้ไหมว่า ฉันแอบชอบเทอเข้าแล้ว
และอื่นๆอีกมากมาย
หลายคำถาม ความคิดที่ผุดขึ้นมา
ดูเหมือน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างตัวฉัน หยุด สงบนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
มีเพียงหัวใจฉัน และความนึกคิดของฉันที่มันกำลังทำงานอย่างหนัก
ฉันโทรไปบอกเทอว่าอีกสักพักเจอกันที่จุดนัดพบ ที่เดิมของเรา
17.30 น. ฉันเอา NB ไปให้เทอช่วยดู เพราะมันมีปัญหา
เทอเอาหนังเรื่องสนุก มีความหมาย ที่เทอเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าเป็นหนังที่ให้แนวคิดที่ดีมากๆ มาให้ดู
เทอเปิดให้ดู และเล่าไปพลางๆๆ
ดุไตเติ้ล เรานั่งข้างๆกัน ท่ามกลางผู้คนมากมาย
แต่ดูเหมือนภายในห้องนั้นจะมีเยงเทอและฉัน
เทอ พูด แล้วก็พูด
พูดๆๆๆๆ
ฉันพูดๆๆๆๆ
เราคุยกันโดยไม่มีหยุด
เรามีเรื่องคุยกันเยอะแยะ จนไม่อยากจากเลยเชียว
เทอมีหนังน่าดูหลายเรื่อง ฉันเลยขอลงเครื่องฉันไว้
และเทอก็เอาโปรแกรมเทนนิ่งเอกเซล แอดวานซ์มาให้ด้วย
เพราะฉันเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับปัญหาที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่า ฉันไม่ถนัดงานโปรแกรมเอกเซล
เทอใส่ใจฉันใช่หรือไม่น๊า
พอลงโปรแกรมเสร็จแล้ว เทอจะลองเปิด ลองสอนให้ดู
แต่ว่าหอสมุดจะปิดแล้ว
ฉันคงต้องมานั่งศึกษาเอง
20.00 น.
เราไปดินเนอร์กัน และพูดคุยกัน
เทอชวนหลานเทอที่มาเรียนที่นี่ไปด้วย
เราไปกัน 3คน
เรานั่งตรงข้ามกัน
เราคุยกัน
แต่รอบนี้ ฉันพยายามไม่มองตาเทอแล้ว
ฉันกลัวเทอจะรู้ความใน
เราคุยๆๆๆๆๆๆ เยอะแยะ มากมาย
จนร้านมาขอเช็คบิล
เพราะเหลือแต่โต๊ะเรา
จำใจต้องจากล
21.45 น.
ฉันโบกมือบ๊ายบาย
เราจากกัน
ฉันคิดถึงเทอ
22.45 น. คิดถึง อยากโทไป แต่ใจยังไม่กล้า
23.15 น.
ฉันคิดถึงเทอ ตัดสินใจโทไปหาเทอ เทอรับสาย ทั้งๆที่นอนแล้ว
เทอคงกะลังจะหลับ
ฉันบอกสั้นๆว่า
"ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่กลับ อย่าลืมมากินชาซีลอน ร้านอร่อยด้วยกันนะ"
แล้วก็ขอวางสายไป
ฉันไม่อยากเป็นฝ่ายโทรไปหาเทอเลย
ฉันตัดสินใจลบเบอร์โทของเทอออกจามือถือ
และพยายามไม่ชอบเทอ
01.00 น. ฉันนอน ฉันฝันว่าได้พูดคุยกับเทอ
เทอโอบกอบฉันจากข้างหลัง
เทอกอดฉันอย่างละมุนละม่อม
เราพูดคุยกันเบาๆ
ฉันดีใจมาก ถึงมากที่สุด
ว่าในที่สุด เทอก็แสดงความรู้สึกออกมาว่ารักฉัน
เป็นปลื้มมาก จนมีน้ำตา
04.30น.
แต่แล้วต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เรื่องที่เทอกอดฉัน มันเป็นแค่ความฝัน
เฮ้อออ
ไม่น่ารีบตื่นเลยเรา
อยากฝันแบบนี้ไปตลอดทุกคืนเลย
07.30 น. ตื่นสายอีกแล้ว
วันนี้มีความสุข
ถึงแม้จะได้แค่แอบชอบเทอ
พรุ่งนี้มีสอบ ก็คงไม่ยากเกินไป ขอให้ข้อสอบง่าย ไม่ยากจนเกินไป
ขอบคุณ "เทอ" มากๆๆ
แล้วเราจะพบกันอีก (ไหม)
เวลา 08.30-14.30 น. เหนื่อย เครียด งานด่วน เอกสารเต็มโต๊ะ
นั่งหน้าจอคอม มีแต่ตารางสี่เหลี่ยมเล็กเต็มไปหมด (เครียดมา สองอาทิตย์ละ)
มึนหัวกับการจัดการข้อมูลใน Excel มาก
อีกอย่าง มันต้องส่งก่อน 16.30 น.
เวลา14.30 น. หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์เธอขึ้น เธอนัดเจอกันหลังเลิกงาน ว้าววว วิเศษ...เหลือเกิน
15.00 น. งานเสร็จแล้ว ส่งแล้ว
ตื่นเต้นที่จะได้เจอเทอ ในอีก 2 ชั่วโมง
ยิ้มได้แล้ว หลังจากที่เครียดมาหลายวัน รวมเวลากว่าค่อนวันที่นั่งเครียดอยู่กับงาน
16.30น. ใจเต้น ตุ้มๆๆ ต่อมๆๆ
จะได้เจอเทอแล้ว
พอเจอหน้าเทอคราวนี้ จะเป็นอย่างไรนะ
เราจะซ่อนความรู้สึกของตัวเอง ได้อยู่ไหม
เมื่อต้องอยู่ตรงหน้าเทอ เทอจะรู้ได้ไหมว่า ฉันแอบชอบเทอเข้าแล้ว
และอื่นๆอีกมากมาย
หลายคำถาม ความคิดที่ผุดขึ้นมา
ดูเหมือน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างตัวฉัน หยุด สงบนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
มีเพียงหัวใจฉัน และความนึกคิดของฉันที่มันกำลังทำงานอย่างหนัก
ฉันโทรไปบอกเทอว่าอีกสักพักเจอกันที่จุดนัดพบ ที่เดิมของเรา
17.30 น. ฉันเอา NB ไปให้เทอช่วยดู เพราะมันมีปัญหา
เทอเอาหนังเรื่องสนุก มีความหมาย ที่เทอเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าเป็นหนังที่ให้แนวคิดที่ดีมากๆ มาให้ดู
เทอเปิดให้ดู และเล่าไปพลางๆๆ
ดุไตเติ้ล เรานั่งข้างๆกัน ท่ามกลางผู้คนมากมาย
แต่ดูเหมือนภายในห้องนั้นจะมีเยงเทอและฉัน
เทอ พูด แล้วก็พูด
พูดๆๆๆๆ
ฉันพูดๆๆๆๆ
เราคุยกันโดยไม่มีหยุด
เรามีเรื่องคุยกันเยอะแยะ จนไม่อยากจากเลยเชียว
เทอมีหนังน่าดูหลายเรื่อง ฉันเลยขอลงเครื่องฉันไว้
และเทอก็เอาโปรแกรมเทนนิ่งเอกเซล แอดวานซ์มาให้ด้วย
เพราะฉันเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับปัญหาที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่า ฉันไม่ถนัดงานโปรแกรมเอกเซล
เทอใส่ใจฉันใช่หรือไม่น๊า
พอลงโปรแกรมเสร็จแล้ว เทอจะลองเปิด ลองสอนให้ดู
แต่ว่าหอสมุดจะปิดแล้ว
ฉันคงต้องมานั่งศึกษาเอง
20.00 น.
เราไปดินเนอร์กัน และพูดคุยกัน
เทอชวนหลานเทอที่มาเรียนที่นี่ไปด้วย
เราไปกัน 3คน
เรานั่งตรงข้ามกัน
เราคุยกัน
แต่รอบนี้ ฉันพยายามไม่มองตาเทอแล้ว
ฉันกลัวเทอจะรู้ความใน
เราคุยๆๆๆๆๆๆ เยอะแยะ มากมาย
จนร้านมาขอเช็คบิล
เพราะเหลือแต่โต๊ะเรา
จำใจต้องจากล
21.45 น.
ฉันโบกมือบ๊ายบาย
เราจากกัน
ฉันคิดถึงเทอ
22.45 น. คิดถึง อยากโทไป แต่ใจยังไม่กล้า
23.15 น.
ฉันคิดถึงเทอ ตัดสินใจโทไปหาเทอ เทอรับสาย ทั้งๆที่นอนแล้ว
เทอคงกะลังจะหลับ
ฉันบอกสั้นๆว่า
"ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่กลับ อย่าลืมมากินชาซีลอน ร้านอร่อยด้วยกันนะ"
แล้วก็ขอวางสายไป
ฉันไม่อยากเป็นฝ่ายโทรไปหาเทอเลย
ฉันตัดสินใจลบเบอร์โทของเทอออกจามือถือ
และพยายามไม่ชอบเทอ
01.00 น. ฉันนอน ฉันฝันว่าได้พูดคุยกับเทอ
เทอโอบกอบฉันจากข้างหลัง
เทอกอดฉันอย่างละมุนละม่อม
เราพูดคุยกันเบาๆ
ฉันดีใจมาก ถึงมากที่สุด
ว่าในที่สุด เทอก็แสดงความรู้สึกออกมาว่ารักฉัน
เป็นปลื้มมาก จนมีน้ำตา
04.30น.
แต่แล้วต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เรื่องที่เทอกอดฉัน มันเป็นแค่ความฝัน
เฮ้อออ
ไม่น่ารีบตื่นเลยเรา
อยากฝันแบบนี้ไปตลอดทุกคืนเลย
07.30 น. ตื่นสายอีกแล้ว
วันนี้มีความสุข
ถึงแม้จะได้แค่แอบชอบเทอ
พรุ่งนี้มีสอบ ก็คงไม่ยากเกินไป ขอให้ข้อสอบง่าย ไม่ยากจนเกินไป
ขอบคุณ "เทอ" มากๆๆ
แล้วเราจะพบกันอีก (ไหม)
วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ตกหลุมรัก
ฉันเป็นอะไรไป
นอนไม่หลับทั้งคืน เพราะคิดถึงเธอ
แอบมีน้ำตา เพราะไปรู้สึกว่า "รัก" เธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่รู้ตัว
เป็นแบบว่าเพื่อนคนนึงแอบรักเธอ
เก็บงำความลับนั้นอยู่ภายใน
ก็ไม่เคยเปิดเผยไป ด้วยกลัวจะเสียใจ จะเสียเธอ
ปิดบังอยู่ตั้งนาน และมันอัดอั้นใจ
ยิ่งเราใกล้ชิดกัน ยิ่งหวั่นไหว
ห่างกันเพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป...
สายตาเธอที่สบมาที่ฉันเมื่อวาน ทำฉันไหวหวั่น เหลือเกิน
เมื่อวานเราไปกินข้าวด้วยกัน
(ตามปกติ เหมือนทุกครั้งที่เราเคยไปด้วยกัน)
แต่เมื่อวาน ใจฉันสั่น
ฉันมองตาเธอ ฉันเห็นแววตาของเธอคู่นั้น ฉันกลัวเธอรู้ความจริงข้างในใจฉัน
เราสบตากันเหมือนเดิม
แต่ความรู้สึกฉันเปลี่ยนไป
มีความรู้สึกพิเศษเข้ามา
ฉันอบอุ่นใจที่ได้พูดคุยกับเธอ
ฉันสบายใจทุกเรื่อง ทุกปัญหา เมื่อได้ปรึกษาเธอ
ความรู้สึกแบบนี้เริ่มแสดงออกชัดเจนๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
อัดอั้นเหลือเกิน ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล
อยากเจอเธออีก แต่แล้วก็ไม่กล้าบอกเธอ
อยากโทรคุยกับเธอดั่งใจต้องการ แต่แล้วก็ไม่กล้าโทร
อยากบอกเธอเกี่ยกับความในใจเหลือเกิน แต่แล้วก็ไม่กล้า
ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ได้เกิดกับฉันมานานมาก นานจนฉันคิดว่าตัวเองสามารถรู้สึกดีๆให้ใครสักคนได้มากมายขนาดนี้
ฉันกลัวเธอรู้
กลัวจะเสียเธอไป
กลัวเธอจะว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เข้าไปชอบเธอก่อน เหมือนคนอื่นๆ
ฉันเอารูปเธอขึ้นหน้าจอคอม
ฉันแอบรอโทรศัพท์จากเธอ
ฉันอยากคุยกับเธอ ก็ต้องหาธุระเรื่องคุย ก่อนโทรไป
ฉันอยากเจอเธอ แต่ไม่กล้าเอ่ยปากชวน
ฉันอยากไปกินข้าวกับเธอในวันที่ว่างตรงกัน แต่ก็ไม่กล้า
ฉันปวด และร้อนรนที่ใจเหลือเกิน
ฉันกำลังตกหลุมรักเธอ...
นอนไม่หลับทั้งคืน เพราะคิดถึงเธอ
แอบมีน้ำตา เพราะไปรู้สึกว่า "รัก" เธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่รู้ตัว
เป็นแบบว่าเพื่อนคนนึงแอบรักเธอ
เก็บงำความลับนั้นอยู่ภายใน
ก็ไม่เคยเปิดเผยไป ด้วยกลัวจะเสียใจ จะเสียเธอ
ปิดบังอยู่ตั้งนาน และมันอัดอั้นใจ
ยิ่งเราใกล้ชิดกัน ยิ่งหวั่นไหว
ห่างกันเพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป...
สายตาเธอที่สบมาที่ฉันเมื่อวาน ทำฉันไหวหวั่น เหลือเกิน
เมื่อวานเราไปกินข้าวด้วยกัน
(ตามปกติ เหมือนทุกครั้งที่เราเคยไปด้วยกัน)
แต่เมื่อวาน ใจฉันสั่น
ฉันมองตาเธอ ฉันเห็นแววตาของเธอคู่นั้น ฉันกลัวเธอรู้ความจริงข้างในใจฉัน
เราสบตากันเหมือนเดิม
แต่ความรู้สึกฉันเปลี่ยนไป
มีความรู้สึกพิเศษเข้ามา
ฉันอบอุ่นใจที่ได้พูดคุยกับเธอ
ฉันสบายใจทุกเรื่อง ทุกปัญหา เมื่อได้ปรึกษาเธอ
ความรู้สึกแบบนี้เริ่มแสดงออกชัดเจนๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
อัดอั้นเหลือเกิน ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล
อยากเจอเธออีก แต่แล้วก็ไม่กล้าบอกเธอ
อยากโทรคุยกับเธอดั่งใจต้องการ แต่แล้วก็ไม่กล้าโทร
อยากบอกเธอเกี่ยกับความในใจเหลือเกิน แต่แล้วก็ไม่กล้า
ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ได้เกิดกับฉันมานานมาก นานจนฉันคิดว่าตัวเองสามารถรู้สึกดีๆให้ใครสักคนได้มากมายขนาดนี้
ฉันกลัวเธอรู้
กลัวจะเสียเธอไป
กลัวเธอจะว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เข้าไปชอบเธอก่อน เหมือนคนอื่นๆ
ฉันเอารูปเธอขึ้นหน้าจอคอม
ฉันแอบรอโทรศัพท์จากเธอ
ฉันอยากคุยกับเธอ ก็ต้องหาธุระเรื่องคุย ก่อนโทรไป
ฉันอยากเจอเธอ แต่ไม่กล้าเอ่ยปากชวน
ฉันอยากไปกินข้าวกับเธอในวันที่ว่างตรงกัน แต่ก็ไม่กล้า
ฉันปวด และร้อนรนที่ใจเหลือเกิน
ฉันกำลังตกหลุมรักเธอ...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)