ผู้ติดตาม

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เมื่อหยุดไขว่คว้า ใจก็เป็นสุข

ผ่านมาสองเดือนกว่าแล้ว ที่เขากลับมา
และช่วงเวลาที่เขากลับมา
น้องคนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย
น้องไม่รับสายฉัน
ไม่ทักทายแม้แต่ในmsn
น้องคงกลัวการผูกพัน ผูกมัดกะฉันจิง
เพราะว่า ช่วงเวลาที่น้องเข้ามา ฉันค่อนข้างจิงจัง เพราะเหงามากมาย

ตอนนี้เขากลับมาทำดีๆด้วยเหมือนเมื่อก่อน
จนฉันลืมเหงา
และลืมน้องคนนั้นไปแล้ว
แต่อีกใจก็ยังนึกหวั่น
เพราะเขากลับมารอบนี้
พี่ได้รู้ว่า ฉันมีน้องคนนั้นเข้ามาในชีวิตพักนึง
เวลาผ่านไปนานเข้าเขาอาจรับไม่ได้ในสิ่งที่ฉันเปน
ฟังดูเหมือนเป็นผู้หญิงขี้เหงา
ที่ต้องมีใครสักคนตลอดเวลา
แต่นั่นนะ ไม่ใช่เลย
พี่วิหายไปจากชีวิตฉันเป็นเวลาปีเต็ม
และกว่าฉันจะทำใจไม่แค้น ไม่เกลียดเขา ก็เกือบปีเช่นกัน
พอใจพร้อม แล้วฉันถึงเริ่มทำความรู้จักกะน้องคนนั้น
ด้วยใจที่เหงาๆๆ
แต่ภายในลึกๆแล้ว ก็ยังอดนึกเสียดายเขา
เพราะยังไงเขาก็เป็นคนที่ฉันอยากอยู่ด้วย มากกว่า

ตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องข้องใจกันอีกเลย เพราะฉันไม่ได้มีน้องคนนั้นอีกเลย
มีแต่ความจิงใจให้เขา

แต่เขาละ
จะมีความจริงใจให้กันไหม
กลัวว่า
พอถึงวันที่พี่เรียนจบโท
แล้วพี่ก็จะไม่ลงมาหากัน

แต่ก็ช่างมันเหอะ

มันเปนเรื่องของอนาคต
ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่ สุดท้ายก็คงต้องต่างคนต่างไป
และพอถึงเวลานั้น ฉันก็คงไม่เสียใจ
อีกต่อไป
เพราะทุกวันนี้ฉันทำดีที่สุดแล้ว
นั่นคือ ให้โอกาสตัวเอง
และให้โอกาสพี่วิ

วันพรุ่งนี้จะเป็นไงช่างมัน
แค่วันนี้ยังมีลมหายใจ ทำสิ่งดีๆก้พอแล้วล่ะ

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จะทำอย่างไร ถ้าจับได้ว่าแฟน "นอกใจ"

พอดีเจอในเวปที่นี่ดอทคอมเลยเอามาให้อ่านกัน

จะทำอย่างไร ถ้าจับได้ว่าแฟน "นอกใจ"
การนอกใจ… ไม่ได้แปลว่าเค้าหมดรัก
ลองอ่าน ทางนี้ ถ้าจับได้ว่าแฟนของคุณ แอบปันใจ ให้คนอื่น ต่อให้เป็นใครก็ทำใจได้ยาก หากจับได้ว่า แฟนหนุ่มสุดรัก แอบปันใจ ให้คนอื่น เฮ้อ ! แถมเรื่องแบบนี้นี่แหละ ที่เป็นต้นเหตุสำคัญ ทำให้ความรักของคู่รัก บางคู่ต้องอับปางลง
ลองถ้าต้องเจอสถานการณ์ เลวร้ายแบบนี้… แต่คุณยังรักเค้าอยู่ ขอเตือนคุณผู้หญิงทั้งหลาย ว่า อ๊ะ ! อย่านะ อย่าปล่อยให้อารมณ์หึงหวง อยู่เหนือเหตุผล เพราะไม่แน่ว่า เรื่องร้าย อาจจะกลายเป็นดี ทำให้คุณและเค้า เข้าใจกัน ยิ่งกว่าเดิม (ก็ได้นะ) …
เรามีคำแนะนำดี ๆ กับ10 วิธีการปฎิบัติตัวที่ ถูกต้อง ที่รวบรวมมาจาก "ผู้มีประสบ การณ์" (ที่ขออนุญาต ไม่เอ่ยนาม) มาดูกันว่าทำอย่างไร เค้าจึงสามารถฟันฝ่ามรสุม ปัญหารักแบบนี้มาได้


1.อย่าโวยวายเริ่มจาก นับ หนึ่ง สอง สาม ในใจ…. แล้วนิ่ง เฉยไว้ก่อน อย่าปล่อยให้อารมณ์หึง ทำให้ คุณหุนหันพลันแล่น ตีโพยตีพายไปก่อน หรือปล่อยให้ความเสียใจ ทำให้คุณ ตัดสิน ใจอะไรผิด ๆ เรื่องแค่นี้อาจเป็นความ ผิดพลาด ชั่วครั้งชั่วคราว ยิ่งทำไม่รู้ไม่ชี้ ไว้ก่อนยิ่งดี
(
2.ห้ามใช้วิธีรุนแรงโดยเด็ดขาดพยายามทำตัวเป็นนางเอกเข้าไว้ (อย่าเป็น นางร้ายซะเอง) ข่มใจไว้ อย่าลุกขึ้นอาละวาด หรือทำร้ายฝ่ายตรงข้าม เพียงเพราะต้องการ แก้แค้นให้สาสม กับที่คุณเจ็บปวด เพราะ มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ซ้ำร้ายมันอาจทำให้ ปัญหาลุกลามใหญ่โต
3.คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตถ้าเค้าจะนอกลู่นอกทาง ไปตื่นเต้นกับ ของใหม่ ก็ปล่อย ๆ ไปบ้าง แต่ที่สำคัญคือคุณ ต้องแสดงให้เค้าเห็นว่า เราเป็นผู้หญิงที่มี คุณค่า และเหมาะที่จะเป็นภรรยา และแม ่ของลูกมากที่สุด ของดี… ใคร ๆ ก็อยากได้… จริงไหม ทำดีต่อเค้า ให้มาก เพื่อพิสูจน์ว่า คุณยอมรับเค้าได้ในทุกเรื่อง
4.อย่ามัวแต่ระแวงการ
นอกใจ แม้จะร้ายแรง แต่ไม่ถึงขั้น "ฆ่าคนตาย" นะจ๊ะ ถ้าต่อจากนั้น คุณเอาแต่ จ้องจับผิดว่าเค้าจะไปไหน ทำอะไร กับใคร คอยเช็คไปซะทุกเรื่อง มันก็ยิ่งทำให้เค้า เบื่อหน่าย และรำคาญ (แทนที่จะสำนึกผิด) แค่แสดงให้เค้ารู้ว่าเรารู้ แต่นิ่งเฉยไว้ ปล่อยให้สำนึกผิดเองได้ผลกว่า
5.ไร้ประโยชน์ที่จะฟื้นฝอย หาตะเข็บจำไว้ว่าการขุดคุ้ยอดีต ที่เป็นแผลของ อีกฝ่าย เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ทั้งไม่ได้ ประโยชน์ และรังแต่จะตอกย้ำให้ สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น กลายเป็นชนวน ของการทะเลาะเบาะแว้งกันไปปล่าว ๆ และยิ่งตอกย้ำว่าคุณยังฝังใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
6.การให้อภัยแม้ว่า"การให้อภัย" จะเป็นสิ่งที่ทำยากที่สุด อย่างหนึ่งในชีวิตคนเรา แต่ถ้าการที่เราเลือก ที่จะคบใครสักคน และจะประคองความรัก ไปให้ตลอดรอดฝั่ง ก็ควรยกโทษให้กับคนที่ เรารัก เพราะเค้าเองก็เป็นแค่คนธรรมดา คนหนึ่ง ที่ทำผิดพลาดได้เสมอ
7.อย่าประชดชีวิตควรวางตัวเองให้มีคุณค่า อย่าคิดประชดคนรัก ด้วยวิธีเดียวกัน คือหันไปหาคนอื่นบ้าง เพราะ วิธีนี้จะทำให้เค้าเป็นฝ่ายเลือก ที่จะไปหาคนอื่น การใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ใช้ไม่ได้ผล กับความรักนะจะบอกให้
8.เอาใจใส่ตัวเองมากขึ้นอย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว ทำตัวให้ดูดี ดูสวยเข้าไว้ เอาแบบที่รียกว่า แม้แต่คนรักของคุณยังตาค้าง ผมที่ยุ่ง ๆ ฟู ๆ ก็จัดการซะให้เรียบร้อย เช็ด คราบน้ำตาทิ้ง แล้วหันมาเอาใจใส่ให้สวยปิ๊ง ดีกว่าเป็นไหน ๆ เราไม่ใช่ของตายของใคร นะเออ
9.หันหน้าเข้าหากันสาเหตุของการ
นอกใจ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหา ระหว่างคุณและเค้า ซึ่งคุณเองอาจมีข้อบกพร่อง ในบางสิ่ง ควรหันมาพูดคุยกัน เพื่อปรับความ รู้สึกเข้ากับอีกฝ่าย รวมทั้งให้เวลาและเอาใจใส่ คนรักให้มากขึ้น
10.ไม่ควรเอาเรื่องนี้ไปประจาน กับคนอื่นปัญหานี้เป็นเรื่องของคนสองคน ระหว่างคุณ และเค้า ทางที่ดีอย่านำความผิดของเค้าไป โพนทะนา หรือประจานให้เพื่อนหรือบุคคล ใกล้ชิดฟัง เพราะจะทำให้คนรักของคุณ รู้สึกเสียหน้า และเข้าหน้าคนใกล้ชิดของคุณ ไม่ติดแล้ว แม้ว่าต่อไปเค้ากับคุณจะคืนดีกัน หรือไม่ก็ตาม

ปีกหัก

ตลอดเวลาสองเดือนที่ผ่านมา
ที่ตัวเองยอมรับให้เทอกลับมาคืนดี
อาการปวดหัวข้างซ้ายตลอดเวลาก็เริ่มเข้ามาอยู่กับฉันได้ทุกๆนาที
ถามว่าดีใจไหม
ที่เทอกลับหาและมาบอกว่าคืนดี หลังจากที่เทอนอกใจและไปจากชีวิตฉันเป็นปีๆ

ยอมรับนะ ว่ายังรอและรอเทอตลอดเวลาตลอด1ปีที่ผ่าน
และกว่าฉันจะทำใจให้สบายได้ ก็เพิ่งจะสามสี่เดือนก่อนที่เทอจะกลับมาเอง
ฉันกำลังมีความสุขในโลกเหงาๆ กับการอยู่คนเดียว และบอกกับตัวเองว่าคงไม่มีความหวังกับการรอคอยให้เทอกลับมาแล้ว
ฉันเข้มแข็งขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น มีตารางงานตลอด 7วัน ปีกฉันแข็งแรงขึ้น ฉันเริ่มโบยบิน
รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองมากขึ้น ที่ไม่ต้องไปนั่งเจ็บปวดเพราะเทออีกต่อไป
มีความสุขเพียงไม่นาน
แต่แล้ว เทอก็กลับมา
ความสับสน วุ่นวาย ก็เข้ามาครอบงำจิตใจ
และฉันก็ปวดหัวข้างซ้ายมาตลอด จนถึงวันนี้เลย
ไม่รู้ว่าจักตัวเองเลย
ฉันนั่งถามตัวเอง
คุยกับตัวเอง
ว่าจริงๆแล้วฉันมีความสุขไหม กับการที่มีเทอ
มันไม่มีความสุขเลย
ไม่เป็นตัวของตัวเอง
ชีวิตถเหมือนถูกตีกรอบ
อยากทำทุกอย่างที่ขวางโลกและเส้นทางที่เทอแนะมา
จากที่อยากเรียนครูมาตลอด ก็เปลี่ยนเป็นไม่อยากเรียนแล้ว
เพราะว่าหมดศรัทธาในอาชีพนี้แล้ว
เห็นเทอทำตัวแบบนี้ แรงศรัทธามันหายหมด

และอีกอย่าง ฉันคงไม่เหมาะกับอาชีพนี้
เพราะจากการที่ฉันได้ไปสอนพิเศษ มันทำให้ฉันรู้ว่า มัน... ไม่สามารถอธิบายได้เลย ก้อประมาณแบบว่า
มันเหนื่อยมาก และรู้สึกว่า ไม่น่าท้าทายเลย
โอเค มันอาชีพที่มีเกีตรติก็จริง
แต่สิ่งนี้ มันไม่ใช่ตัวฉัน
ตอนนี้ที่เทอกลับมา และมาบอกให้ฉันเรียนครู เพื่ออนาคต
เทอบอกแบบนั้น ซึ่งอนาคตของเทอ มันคงไม่ใช่ฉัน
และถ้าฉันจะเรียนครุหรือไม่เรียน ก็ไม่ได้เกี่ยวกะอนาคตเทอกับฉัน
แต่มันเป็นชีวิตของฉัน
ฉันต้องการมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ มีใจรักในสิ่งนั้น

ความหมายของเทอ ที่มาบอกให้ฉันเรียนครูต่ออีก2 ปีนั้น คือ เทอต้องการมีคนที่ทำงานเหมือนเทอ เพื่ออนาคตที่ดีของเทอ
ฉันไม่ได้มองว่าการเป็นครูแล้วชีวิตจะมั่นคงหรอกนะ
และสิ่งนั้นจะทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และมีความสุขไหม นั่น สำคัญกว่า
ชีวิตฉันไม่จำเป็นต้องทำงานอยู่ในระบบราชการตลอดไป ฉันยังอยากลองอะไรอีกมากมาย

เวลาอยู่กับเทอ จิตใจฉันว้าวุ่น ไม่สบายใจ ไม่อุ่นใจเลยสักนิด
ตรงกันข้าม
ฉันปวดหัวข้างซ้ายตลอดเวลา

ฉันไม่เชื่อใจเทอ แต่ก็ยอมรับให้เทอกลับมาหากัน

ฉันเริ่มงอแง เริ่มอ่อนแอ
ปีกฉันหัก บินต่อไปไม่ไหว
ฉันกำลังฝืนใจตัวเอง
เพื่ออะไรสักอย่าง
มันคืออย่างเดียวที่ฉันรู้ว่ามันผิดต่อตัวฉันเอง
นั่นคือ ฉันต้องการเอาชนะอีผู้หญิงคนนั้น
ฉันยอมรับให้เทอกลับมา เพื่อให้อีนั่นมันเจ็บปวด และฉันต้องการให้มันรู้ว่า เทอกับฉันเรากลับมาคืนดี และรักกันมากกว่าเดิม

แต่นั่นละ ทำให้ฉันปวดหัว

ฉันก็ไม่รู้หรอกว่า ฉันจะฝืนแบบนี้ได้นานสักเท่าไหร่
เพราะสภาพจิตใจฉันตอนนี้ กำลังแย่เหลือเกิน
ต่อไป ฉันคงไม่อยากเอาชนะใคร
แต่ฉันต้องการเอาชนะใจตัวเอง
และฉันจะชนะใจตัวเอง ด้วยตัวฉันเอง
หวังให้ปีกฉันกล้า และแข็งแรง วันนั้นฉันคงโบยบินได้อีกครั้ง

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานปีใหม่ 2552

การเดินทางที่แสนพิเศษ

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันที่เขากลับมา

เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน 6 วัน

แอบดีใจที่เพี่กลับมา

แต่ไม่รุเหมือนกัน

ว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมไหม

แต่ยังไงก็ดีใจ ที่พี่กลับมา

พี่กลับมา

วันที่ตาฉันบวมๆๆ

วันที่ 13 ที่ผ่านมา

วันที่ฉันร้องไห้มากมาย เพราะสับสนทางสมองเหลือเกิน

แล้วพี่ก้โผล่มา

มาทำดีมากมาย

มาทำแสดงความเป็นเจ้าของมากมาย

แต่ก็ดีใจ

ที่พี่กลับมา

ไม่สามรถอธิบายความรู้สึกได้เลย

ตอนอยุ่กะพี่ ก็ยังรู้สึกดีๆอยู่

แต่ว่าทำไมไม่ตื่นเต้นเหมือนเวลาอยุ่กะ"เทอ"

แต่เราก็มีเวลาอยู่ด้วยกันตั้ง 6วัน

เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

6วัน

แล้วน้ำตาก็แห้งไป

ความรุ้สึกคิดถึง"เทอ" เริ่งจางๆลง

แต่ระหว่างที่ฉันอยู่กะพี่ ฉันแอบมีคิดถึง "เทอ"บ่อยๆ

กลัวจะละเมอเป็นชื่อ"เทอ"

ดีใจหรือเสียใจดี ...สับสน

วันนั้น วันอังคารที่ 13 ที่ผ่านมา

วันที่ฉันตาบวมๆ

เขาโทมา

และจะมาหากัน

ฉันร้องไห้คิดถึงอีกคน

แต่พอเขาบอกว่าจะมาหากัน

ฉันก็ดีใจ

เขาและฉันมีเวลาอยู่ด้วยกัน6วัน

ความรู้สึกข้างในแอบดีใจที่เขากลับมาหากัน

ถึงแม้จะมีคำถามอยู่ข้างในมากมาย

จนปวดหัวข้างซ้ายมากมาย

แต่ฉันยอมรับในการหวนกลับมาของเขาในครั้งนี้

ที่ฉันไม่รู้ ว่ามันจะดีแบบนี้ไปสักกี่วัน กี่เดือน

คงไม่ต้องพูดถึงปี เพราะว่าฉันไม่อยากคาดหวังอะไรเกินไปแล้ว

ร้องไห้คิดถึงเทอมากมาย แต่พอเขามาหา ฉันก็มีความสุขดี

จริงๆแล้วที่ฉันร้องไห้มห้กับเทอ คงเป็นเพราะว่าฉันเหงา

พอเขามาหา ฉันก็หายเหงา แต่ก็ปวดหัวเพราะคิดมากบ้าง

อยากได้หัวใจเขา เพราะฉันไม่อยากเสียเขาไป

เขาเพิ่งกลับรร.สายๆของวันนี้

จิตใจของฉันก็ยังปกติดี

ไม่ได้ร้อนรนมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

แต่ถ้าจะให้ดี

ฉันอยากให้พี่มาเป็นเหมือนเดิม


พี่มารอบนี้

พี่แสดงความเป็นเจ้ากับฉัน หึงหวงฉันมากมาย

ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ก่อนที่เราจะเลิกรากัน เทอไม่เคยสนใจกันเลย

พี่มารอบนี้เพราะอะไร
เพราะพี่ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น หรือเป็นเพราะพี่ไม่เหลือใคร แต่จะอย่างไรก็ช่างเหอะ จะลองดู
ถามแล้วเหมือนกัน

แต่ว่า

ไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่

ก็จะรอดูต่อไป จนกว่าจะถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552

...

เทอ

คนที่ไม่อยากมีใคร แต่

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อย่ามองตาเลยก็แล้วกัน

333

กลับบ้าน

ตั้งใจอ่านหนังสือแล้วก็สอบเสร็จแล้วเทอก้กลับบ้านและฉันก็เหงาร้องไห้เพราะว่าจะไม่ได้เจอกันนานเลยงอแง แล้วก็งอแงได้คุยกะเทออยู่หลายชม. คงต่อลมหายใจได้อีกหลายวัน จนกว่าเราจะพบกันใหม่

The Hyern (เหยิน)

The Hyern...

วุ่นนัก รักที่ปรารถนา

ใจคนเรายากเย็นเกินไป
ไม่เห็นต้องทำให้ยากเลย
อย่างฉันก็ทำ ก้เป็นเหมือนอย่างเคย
บอกเลยว่ารักเทอ
ปากเทอแข็งไหม อันนี้คงไม่ใช่ละ
แต่ว่าใจเทออะ เย็นชา
แค่คำว่ารักคงลำบากเกินไปที่จะพูด
เทอบอกว่าเป็นห่วงกัน
แต่นั่นไม่ใช่ห่วงเพราะความรุสึกที่เรียกว่ารักหรอกนะ
แต่เทอห่วงเพราะว่าสงสารฉัน
จริงๆแล้ว เทอก็บอกกับฉันตั้งแต่แรกเลยแล้ว
ว่าเทอจัยังไม่มีใครจิงจัง
ที่เทอเป็นแบบนี้เพราะผู้หญิงทำให้เทอเป็นแบบนี้
ทำให้เทอไม่อยากรักใครจิงจังอีก

วันนี้เทอเดินทางกลับบ้านแล้ว
บรรยากาศเลยดูเศร้าๆ
แต่จะว่าไปแล้ว ถึงเทออจะยังอยู่ที่นั่น หรือไม่อยู่ก็มีค่าเท่ากัน
เพราะว่าเทอไม่เคยสนใจกันอยู่แล้ว
ถึงจะใกล้กัน
แต่เราก็เหมือนห่างกัน
ขอคิดแค่ว่า อย่างน้อยก็มีเทออยู่ใกล้ๆกัน อยู่ที่นี่ ที่พิษณุโลก
คนบ้านเดียวกัน
มาเจอกกันที่นี่

เมื่อคืนฉันกินสปายไป 2 ขวด
เลยงอแงใส่เทอไปนิดหน่อย
แต่นั่นคงไม่นิดสำหรับเทอ
เทอบอกฉัน ว่าอย่าเลอะเทอะไป
เด๋วจะเสียงาน
และฉันก็เอาแต่ร้องไห้
งอแง
ใส่เทอ
และฉันก็ไม่ได้เจอหน้าเทอก่อนกลับบ้านจริงๆ
เทอบอกกะฉันว่า เทอไม่ผูกพันกะฉัน ถึงเราจะคบกัน
แต่นั่นละ
เป็นอะไรที่น่าท้าทายมากมาย
ความจริงสิ่งที่เทอพูดเป็นอะไรที่น่ากลัว
แต่ฉันก็ยังน้อมรับคำท้าของเทอ
แม้ทุกวันนี้ฉันจะมีน้ำตา
แต่ว่าฉันได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเราเทอจะยอมใจอ่อน มอบใจให้ฉัน
และอย่างน้อย
ขอแค่ให้ฉันได้รัก ได้ชอบเทออยู่ตรงนี้ ณ มุมนี้
วันนี้ตาบวมมากมาย
ไม่อยากมองหน้าใครๆในที่ทำงาน
แต่งานการก็ไม่ให้เสียหรอกนะ
งานยังคงดำเนินต่อไป
แม้ตาจะบวมๆ

ช่วงเวลาเมา มั้งงงงง

ใจคนเรายากเย็นเกินไป ไม่เห็นต้องทำให้ยากเลย


เมื่อคืนเราคุยกันสองชั่วโมง


ฉันเมานิดๆๆ

เทอเหนื่อย อยากพักผ่อน

ฉันสะอื้น

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

The Boy & The Friend

เมื่อเจอเทอ
อะไรๆก็ดูง่ายขึ้นมาก
อยู่ใกล้ๆเทอแล้วสุขใจ และอุ่นใจ
เปล่า ฉันไม่ได้แอบรักเทอหรอกนะ
เทอเป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวของฉัน
ตั้งแต่เล็กจนโต
ฉันยังไม่กล้าคบเพื่อนที่เป็นผู้ชายเลย
แต่เทอเปนคนแรก ที่ฉันกล้าที่จะยอมรับและคบเป็นเพื่อนคนึง
สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง

เปล่า ฉันไม่ได้แอบชอบเทอเลย
แค่มีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอเทอ

อยู่ใกล้เทอแล้วไม่กลัวภัยใดๆ
มีความรู้สึกว่าเทอสามารถปกป้องเพื่อนคนนี้ได้

เทอกลับมาบ้านรอบนี้
เราก็เจอกันเช่นเคย
เรามีเวลาแบบเพื่อนด้วยกัน
ไปกินข้าวด้วยกัน
แชร์ความรู้ด้วยกัน
เทอช่วยต่อสายแลนในห้องให้ฉัน
จนสามารถเล่นเนตได้
ขอบคุณเทอจิงๆ

(ถ้าฉันมีเทอเป็นเพื่อนแบบนี้ไปตลอดก็คงดี)

ก่อนหน้าที่เทอจะกลับมาเจอกัน
ฉันได้ไปรู้จักกับน้องคนนึง
อ่อนแอ
ไม่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่
ฉันยอมรับว่าฉันชอบน้องเขา
แต่ฉันไม่เคยอุ่นใจเหมือนเวลาอยู่กะเทอ

น้องเขาไม่รักษาน้ำใจฉันสักเท่าไหร่

มันไม่ได้ชอบฉันจิง
แต่มันก็ยังมาหาฉัน
และด้วยความที่ฉันชอบ ก็เลยยอมให้มาหา
บางครั้งฉันก็เป็นฝ่ายชวนน้องเขามาเอง

สองวันที่ผ่านมา
ฉันพยายามทำใจลืมน้อง
และคิดว่าจะไม่ไปยุ่งด้วยแล้ว

จนเมื่อได้เจอเทอ
น้ำตาฉันแทบไหล
เหมือนได้เจอคนที่คุ้นเคย
คนที่ไม่เคยทำร้ายกัน เพื่อนฉันคนนี้
เทอเป็นเพื่อนที่ดี ดีจนฉันกลัวใจตัวเองมากมาย

แต่ยังไงซะ
พวกเราเพื่อนกัน
เทอ เพื่อนผู้ชายคนแรก

ขอบคุณเพื่อนที่ช่วยให้ใจที่เหงาๆ
ได้หายเหงาบ้างในบางเวลา
ฉันไม่ได้มีความหวังใดๆ
แต่อย่างน้อย
เทอเป็นเพื่อนผู้ชายคนนึง
ที่เวลามีเทอแล้วอุ่นใจ
สามารถเล่าได้ทุกเรื่อง

แต่เทอยังคงไม่ยอมบอกกะแฟนเทอเมื่อวานตอนเราไปกินข้าวกัน
เรื่องที่เทอมาหาฉัน มาเจอกัน
เรากินมื้อเที่ยงด้วยกัน
เราไปนั่งเล่นเนตใต้ตึกคณิตด้วยกัน
เทอสอนการโหลดเพลงแล้วเอาไฟล์เพลงมาลงเครื่องให้ฉัน
เทอพยายามสอนเกี่ยวกะการใช้โนตบุคให้ฉันมากมาย
เทอเป็นเหมือนฮีโร่ของฉัน
และฉันก็ช่วยลงรหัสพรอกซี่เพื่อให้เทอเล่นเอ็มในมอได้
เราต่างเป็นฮีโร่ให้กันและกัน
เรามีเวลานั่งเล่นเนตด้วยกันทั้งบ่าย
ตกเย็นเรากินมื้อเย็นด้วยกัน
ฉันพยายามหาเรื่องคุยกะเทอ
แต่เหมือนการมองตาของเราสองคนมันเปลี่ยนไป
หรือบางทีฉันอาจคิดมากไปเอง
ฉันกลัวใจตัวเองมากที่สุด
เพราะว่าตอนนี้ใจฉันว่าง
บวกกะเทอเป็นผู้ชายที่ฉันไว้ใจและอุ่นใจเมื่ออยู่ใกล้

เทอกะฉัน เพื่อนกันตลอดไปแบบนี้ก็คงดี
แต่ทำไมวันนี้บรรยากาศมันเศร้าๆ
เมื่อคิดว่าเราเป็น "เพื่อน"กัน
มันดีแล้วไม่ใช่หรอ
ฉันคงไม่ได้หลงรักเพื่อนอย่างเทอไปนะ
ฉันคงเหงา
พอมีเพื่อนมาหาคนนึงก็จะรู้สึกหัวใจพองๆ

เพื่อนฉันก็มีเยอะแยะนะ
เจอกันก็รู้สึกดีใจ
แต่กับเทอ
พอได้เจอ
รู้สึกหัวใจมันพองๆ
รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจ
รู้สึกพิเศษ

แต่ว่าฐานะเราเป็นออะไร
ฉันรู้ดี
เทอรู้ดี
เราต่างเป็นเพื่อนที่ดี


...
เทอ
เทอเพื่อนเพศชายคนเดียวของฉัน
เทอ ผู้ชายคนเดียว และคนแรกที่ให้กุหลาบในวันวาเลนไทน์กับฉัน
เทอ ผู้ชายที่ฉันอยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่น

เทอ ผู้ชายคนที่ฉันอยู่ใกล้แล้วมีความสุข
ฉันสามรถยิ้มได้ทุกเวลา เมื่อเราเจอกัน
เทอ เพื่อนผู้ชายที่สามารถรับฟังฉันได้ทุกเรื่อง
เทอ สุภาพบุรุษในดวงใจ
ฉันชื่นชมเทอ คงไม่ผิด
เพราะเทอเป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวของฉัน
ฉันควรรักษาไว้ให้ดี เพื่อมิตรภาพที่ยาวนานของ "เรา"
ทำไมตอนนี้มันจี๊ดที่หน้าอกข้างซ้าย
เมื่อต้องพูดถึงเรื่องเทอ
หรือว่าฉันกำลังแอบปลื้มเพื่อนคนนี้
ไม่หรอกนะ
เทอเข้าใจฉันดี
ฉันแค่ดีใจ ที่มีเพื่อนอย่างเทอ
น้ำตามันจะไหล
คงเป็นเพราะว่าตื้นตันใจที่มีเทอมาเป็นเพื่อนชายของฉัน
ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลยจิงๆ
ไม่อยากถามใจตัวเอง
ให้ทุกอย่างคุกรุ่นอยู่ภายใน
อย่าได้รู้ว่าภายในนั้นเป็นเช่นไร
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป
มันก็จะกลับมาสู่ปกติเหมือนเดิม
ฉันหวังว่าภาพของเราจะงดงามเช่นนี้ไปตลอดกาล

คงไม่มีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกแล้ว
"การแอบรักเพื่อน"
มันเป็นอะไรที่ต้องอดทนรอคอย
และเจ็บปวดเมื่อเห็นเทอไปกะคนของเทอ

ให้มันมีเพียงหนนั้น หนเดียวพอ

เทอคนนี้
กะฉันจะเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน

เท่านั้น
บอกกะใจตัวเอง

น้ำตาจะไหล
ทำไมวะ
เป็นเพราะว่าเพลงที่กำลังเปิดอยู่มันเศร้ามั้ง
ไม่เชื่อก็ลองหาฟังนะ
เพลง " Part of the list" ของ Ne-Yo
ไม่รู้ความหมายหรอก
แต่มันเศร้าได้ใจจิงๆ
ทำฉันน้ำตาจะไหล

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

ความสุข ความสุข

มีความสุขที่สุดเลย
สุดๆไปเลย
ได้แค่นี้ก็สุขจนล้น
ไม่ต้องเป็นมากกว่านี้
ต่างคนต่างเบรคบ้าง

รอให้เทอพร้อม
ฉันก็พร้อมไปด้วยกัน

แต่ตอนนี้
ได้แค่นี้ก็สุข มากจนถึงมากที่สุดแล้ว

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

กินแค่พอให้หายหิว

ถ้าเราหาความสุขแบบถาวรไม่ได้
ก็จงพอใจกับความสุขเพียงเล็กน้อย ที่เราหามาได้
ความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เมื่อมีโอกาสก็ต้องรีบคว้า
ถึงจะเป็นเพียงความสุขเพียงชั่วข้ามคืน
นานๆจะมีครั้ง รีบคว้าไว้ และดื่มด่ำมีความสุขกับมันให้เต็มที่
ก่อนที่จะเหือดแห้งหายไป

มันก็คงเป็นเหมือนกับ
การกินข้าว
ในเมื่อเรากินให้อิ่มไม่ได้
ก็กินแค่ให้พอหายหิว
เท่านั้นพอ

ฟังดูเหมือนอดๆ อยากๆ จังเลย

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

กิ๊ก

เมื่อคืนเทอบอกว่าเราควรคุยโทสับเพียงวันละ 1 ครั้ง
เพื่อที่ว่าเราจะได้คุยกันนานวันขึ้น

ความจิงก็ไม่ได้อยากคุยกะเทอทุกวันหรอก
แต่เมื่อเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้ฉันนึกอยากจะคุยกะเทอ
พอกลับจากร้าน "แสงจันทร์" กะสปาย 6ขวด ส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพียง6เปอร์เซ็นต์
ก็อยากคุยกะเทอ
อยากได้ยินเสียงแค่นี้คงไม่เท่าไหร่

เราคุยกันชั่วโมงกว่า
เทอบอกว่าเทอ "นับถือ"ฉัน และ"ให้เกียรติ" ฉัน
นับถือแบบไหนฟระ แบบว่าเป็นพี่คนนึงอะหรอ ถามต่อ เทอก็ไม่ยอมบอกแล้ว
แต่มันคงจิง เพราะตอนเทอมาหาฉัน ตอนเราเจอกัน เทอให้เกียรติฉันมาก
บางเวลาฉันยังอดนึกว่าเทอเป็นหลานคนนึงไม่ได้เลย
บางมุม เทอก็เปนเหมือนน้องหรือหลานคนนึง
แต่บางเวลาความรู้สึกมันมากกว่านั้น
แบ่งแยกไม่ถูก
สับสนเล็กน้อย
อยากจะยุติเรื่องราวทั้งหมดไว้เพียงเท่านี้
แต่ก็ยังอยากมีเทอมาเดินเคียงข้าง
แต่ถ้าได้มาเดินเคียงข้างจิงๆ ฉันจะมีความสุขจริงหรอ
เขาคนที่จะมาเดินข้างฉัน คือ เทอใช่หรือป่าว
หรือว่าเป็นเพราะ เหงา เลยทำให้ฉันอยากคุยกับเทอ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ที่ฉันยังไม่ตัดใจเลิกกะพี่วิ ฉันก็ยังไม่สรรหาคนมาคุยแบบนี้เลย
ตอนนี้ตัดใจ ไม่รอพี่วิอีกต่อไป
เลยเหงา
ก็เลยหาคนคุย
เจอแจคพอตพอดีด้วย
เจอคนมีเสน่ห์ คารมดีอย่างเทอเข้าด้วย
ฉันเลยยิ่งอยากคุยมากไปอีก
ยิ่งเทอเป็นคนตรงไปตรงมา ดูเป็นคนเจ้าชู้ กินเหล้า ดูดบุหรี่ ฉันก็ยิ่งมองว่าเทอมีเสน่ เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว
แต่ก็นั่นละ
มันก็มีข้อเสียมากมาย

ตอนนี้เรื่องราวระหว่างเทอกะฉันมันได้เดินทางต่อไปเรื่อยๆ
ความรู้สึกที่ดีๆที่เรามีกันก็เริ่มมากขึ้น
เมื่อคืนเทอบอกว่ารู้สึกดีและสบายใจเมื่อได้คุยและอยู่กะฉัน


...
ได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว
ขอบคุณน้องเหยินมากมายที่มาเป็นกำลังใจและที่ปรึกษาชั่วคราวในบางเวลา
และไม่รุว่าเทอจะอยู่กะฉันนานแค่ไหน
แต่นั่นคงไม่สำคัญแล้ว
เพราะว่าการที่ฉันได้มีเทอไว้แบบนี้ อยู่ตรงนี้ แค่นี้ฉันก็มีความสุขมากแล้ว
มีความสุขจนกลัว
กลัวว่าสักวันนึงเทอจะไม่อยากอยู่ตรงนี้
วันนั้นฉันคงเสียใจมากกว่าตอนเสียพี่วิไป
วันนี้จำเป็นต้องเว้นที่ว่างระหว่างเราไว้สักนิดก่อน
เพื่อกันไม่ให้เราสองคนเบื่อกันและกัน
เพราะการที่อีกฝ่ายนึงรุกเข้าไปมากเกินไป จะทำให้อีกฝ่ายนึงหนี
มันเป็นเรื่องจริงที่หนีไม่ได้เลยจิงๆ
แล้วฉันจะห้ามความรู้สึกตัวเองไหวไหม
กับการที่ต้องเว้นช่องว่าง ให้เทอกะฉันเป็นเพียงแค่คนรู้จักกัน
และเทอก็ไม่ได้แคร์กันเลย

ตอนนี้สับสน 2ทาง
1. เลิกความคิดที่จะชอบเทอแล้วเป็นแค่เพื่อนรุ่นน้อง (ข้อนี้ทำยากมาก เพราะถึงตอนนี้แล้ว ความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว แค่พยายามไม่คุยกับเทอ2วัน น้ำตาก็ไหลแล้ว ) หรือว่าฉันยังไม่พยายามเต็มที่กับข้อนี้
2. ลองเสี่ยง เล่นของสูงก็ต้องลองเสี่ยง เผื่อว่าสักวันนึงเทอจะหันมารู้สึกแบบเดียวกัน
แม้ว่าจะเจออุปสรคคมากมาย เรื่องที่เทออาจมีคนอื่น (ถึงเทอจะบอกว่าไม่ใช่แฟน แต่เทอก็ยอมรับว่ามีคนอื่นด้วย สิ่งที่บ่งบอกว่าเทอมีคนอื่นด้วยจิงก็คือลอยเล็บผู้หญิงข่วนตรงหลังเทอ) เรื่องแบบนี้ฉันไม่แน่ใจว่าจะทนไหวหรือป่าว รู้ว่าเทอมีคนอื่น แต่ในเมื่อเทอบอกว่าไม่ใช่แฟน นั่นก็คือเป็นแค่กิ๊ก
แล้วฉันก็คงเป็นแค่กิ๊กเทอด้วยเช่นกัน

ฉันคนที่ไม่ชอบคำว่า "กิ๊ก " เพราะสำหรับฉันแล้วคำว่ากิ๊ก บ่งบอกถึงการไม่เคารพตัวเอง

หรือว่าตอนนี้ฉันเลิกเคารพ และนับถือตัวเองไปแล้ว
ฉันไม่มีค่าบ้างเลยแล้วใช่ไหม


สับสน
...
เรื่องหัวใจ มันยากชะมัด
แก้ไม่ตก
แอลกอฮอล์อยู่ไหน มาหาฉันที



วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

แต่ไม่เป็นไร

จนถึงวันนี้แล้ว
วันเวลาผ่านพ้นมาอย่างรวดเร็ว

ฉันรุ้จักเทอเพียงแค่ไม่ถึงสองเดือน
แต่ก้อแอบชอบเทอมากมาย
เทอรู้ทุกอย่าง
แต่เทอก็ยังนั่งยัน ยืนยันว่าจะคุยกะฉันในแบบเพื่อนไปก่อน

ฉันรู้จากปากเทอตลอดว่า เทอจะไม่คบใครอย่างจิงจัง เทอยังไม่อยากมีปัญหากะใคร
เมื่อวานฉันเจอเทอ เลยได้เห็นความจิง
ฉันเห็นเงาคนอื่นในตัวเทอ
เทอมาหาฉันเพราะอะไร
หรือว่าฉันจะเป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงของเทอ ที่เทอบอกว่า จะ "ไม่จิงใจ"

แต่ว่าความรู้สึกดีๆ ที่เรามีกัน ไม่อาจห้ามใจให้ฉันเลิกชอบเทอได้
ก้ได้แต่หวังว่าฉันจะเป็นหนึ่งคนสำคัญของเทอ

เทอไม่จิงใจ เทออาจมีคนอื่นหลายคน
แต่ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เพราะว่า"รัก"จิงๆ รักคือการให้ ฉันให้เทอ
ระหว่างที่รุ้สึกดีกะเทอมากๆ
ก็ได้เผื่อใจไว้บ้าง
แต่คงต้านความรุ้สึกดีๆเหล่านั้นไม่ได้
อยากเจอเทอทุกวัน
อยากจะเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่
อยากให้เทอมีแค่ฉัน
อยากให้เราคบกัน
...
ฉันคิดถึงเทอ ไม่อาจบอกกับใครเขา อยู่กับใจของตัวเรา อยู่ในความคำนึงผุ้เดียว

เบรกๆๆๆ
เบรกความรู้สึกหน่อย ก่อนที่เทอจะหันหน้าหนี
อย่าไปแสดงงความรู้สึกมากเกิน เดี๋ยวเทอจะเผ่นเสียก่อน
ไม่อยากตามเทอมากเกิน
จะกลายเป็นความรำคาญ
แล้วเรื่องราวระหว่างเราจะน่าเบื่อ

ระยะห่าง
ปล่อยให้มีระยะห่างแบบนี้ไป
ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านความรู้สึก
แต่ว่าดูเหมือนจะไม่ได้ผล
เราสองคนเริ่มย่นระยะห่างให้เหลือเพียงน้อยนิด
ตอนนี้ก็เหลือเพียงระยะห่างเส้นบางๆกั้นระหว่างเรา
ให้ต่างคนต่างมีมุมในส่วนของตัวเอง
เมื่อวานที่เราเจอกัน
เทอดูสดใสขึ้น หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันสองวัน
อาทิตย์นี้ฉันดูมีกำลังใจขึ้นเยอะ
อยากทำอะไรต่ออะไร
ทำข้อสอบภาค ก ได้อย่างมีสมาธิ เพราะว่ามีเทอเปงกะลังใจ
ถึงแม้จะยังไม่ได้คำตอบ ว่าเทอเปนใคร
แต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกดีๆเหล่านี้ จะชั่วคราวได้แค่ไหน
สับสนมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

มงกุฏดอกไม้

มงกุฎดอกไม้ ที่เธอให้ฉัน ทำให้วันที่ธรรมดา ของคนที่ธรรมดา เหมือนกลายเป็นเจ้าหญิง ทุกสิ่งช่างสวยงาม ทุกสิ่งช่างแสนดี ตั้งแต่วันที่ฉันมีเธอ เธอทำได้เจอความรักที่แท้จริง จะมีเสียงจากใจฉัน ส่งผ่านฝัน ในวันที่เราต้องไกลห่าง อย่าอ้างว้าง เพราะใจเราไม่เคยห่างกัน ตั้งแต่วันที่เธอเดินเข้ามา จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนรู้ใจ เธอเปลี่ยนแปลงชีวิตฉันใหม่ จากไม่เคยเป็นคนพิเศษของใคร

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

บำบัดยาเสพติด

เหนื่อยเหลือเกิน
กับอาการเหงาๆ
หลายวันนี้โทไป "เทอ" ไม่รับสายเลย
อยากแค่ได้ยินเสียงก็ยังดี
ก่อนหน้านี้ฉันพยายามไม่ให้เทอเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของฉัน
แต่ฉันก็ทำได้แค่อาทิตย์เดียว
พอเทอโทมา ความเข้มแข็งทั้งหมด ก็หายไปไหนหมด
จนถึงวันนี้ ความเข้มแข็งก็ยังไม่มี
และยิ่งอ่อนแอลงทุกวันๆๆ
โทไปหลายสิบสาย หลายเวลา
แต่เทอก็ไม่รับสาย
เมื่อคืนโทไป เจอแต่"รอสาย"
และเทอก็ไม่รับสายเลย
ฉันมันเหงาอะไรมากมาย
แค่อยากมีใครสักคนที่ถูกใจอย่างเทอเป็นเพื่อนคุย
แต่สุดท้ายแล้ว
ก็ไม่เป็นดังหวัง
เหงา เพราะว่าคิดว่าเทออยู่ใกล้แค่นี้เอง
ทำไมเราไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกัน
ทำไมเราไม่ได้ไปวิ่งด้วยกัน
เหมือนวันนั้น

สองวันที่จะถึงนี้
ฉันลาพัก
คงจะได้พักจิตใจบ้างนะ
ไม่รุจะไปไหนดี

เมื่อตอน 2ทุ่มฉันโทไป
อยากจะดูหนังกับเทอสักเรื่อง
แต่แล้วเทอก็ไม่รับสาย

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เทอบอกจะมีดูหนังที่หอฉันตั้งหลายครั้ง
แต่ฉันไม่ยอมให้เทอมา
เพราะ "กลัว" อะไรหลายๆอย่าง

อัพเดตๆๆ ตอนนี้ 4 ทุ่มครึ่ง เทอโทมาแล้ว
โทมาบอกว่าจะมาดูหนังด้วย
เหอๆๆ
มาสักดึกเลย
ยิ่ง "กลัว"
แต่ไหนๆ ก็เหงามากมายขนาดนี้แล้ว
มีเพื่อนดูหนังสักคนก็คงจะดี
คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกมั้ง


วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ขี้เกียจ

ชีวิตจะไปทางไหนดี
ขี้เกียจทำงาน
ขี้เกียจสอนพิเศษ
ขี้เกียจกลับบ้าน
ขี้เกียจพูดคุยกะผู้คน
ขี้เกียจให้ความหวังลมๆแล้งๆกะใจตัวเอง
ขี้เกียจคิดถึงใครบางคน
ขี้เกียจนึกถึงขี้หน้าใครบางคน
ขี้เกียจ"เจ็บ"
ขี้เกียจให้น้ำตาไหล
ขี้เกียจกินสปาย
ขี้เกียจกินเหล้า
ขี้เกียจเหงา
ขี้เกียจกิน
ขี้เกียจนอน
ขี้เกียจหายใจ
...
ขี้เกียจเสียดายผู้ชายเห็นแก่ตัวบางคน
ขี้เกียจแค้นผู้ชายเจ้าชู้
ขี้เกียจฟังเพลง"เหงา"ของ ปูพงษ์สิทธิ์ ขี้เกียจฟังเพลง "ได้อย่างเสียอย่าง" ของอัสนีย์ วสันต์
(แต่ว่าทั้งหมดที่ฉันว่ามา เป็นอะไรที่ฉันทำได้ทุกวี่วัน)
เหนื่อย ไม่ไหวจะเครียร์แล้ว..ใจ กรุ

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

เวลาตายของ"คนแก่"

ในกระจกมัวๆ มี"คนแก่"คนหนึ่งคนที่พึ่ง ลึกซึ้งถึงความเดียวดาย
นาทีที่กาลเวลา บอกว่าเธอมีค่าเพียงใดคือนาทีที่สาย
เกินหวังให้ใครกลับมา
เหมือนคนตื่นจากฝัน ตามทวงวันและคืนดีๆทั้งที่ก่อน หน้านี้ไม่เคยรักษา
เวลาที่คิดว่าพอ กลับไม่พอให้พูดคำลา
ทำได้เพียงแค่นึกรู้สึกโหยหามัน
ชีวิตนี้ ถ้าไม่มีเธอก้าวเข้ามาฉันคงเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น

แปลกที่คนไม่รู้ มีเพียงผู้เดียวคือฉันอยากกอดเธอแน่นๆนานๆในวันที่เสียเธอไป
เชื่อว่าที่ตรงนั้น เธอยังพร้อม

จะฉันอยู่แล้วที่สุด ก็รู้เธอรอไม่ไหวเจอเพียงแค่รอยน้ำตา หยดบนนาฬิกาที่ตายให้ฉันได้กอดมันไว้ และบอกว่ารักเธอ

เวลาทุกเสี้ยวนาที คนๆนี้จะเก็บมันไว้จะจำจนวันสุดท้าย ว่าเคยได้กอดเธอ

อารมณ์เหงาๆ

ความเหงามันโหดร้าย
เกินจะทน
เมื่อคืนเหงา...
พอเหงาทีไร ก็นึกถึง RED ทุกที
แอลกอฮอล์แค่ 6 เปอเซน
แต่ก็ทำให้มึน และเมาได้ทุกครั้งที่ดื่มมัน
ดึกแล้ว
ทำไม อารมณ์อยากกินถึงมาดึกขนาดนี้
เพื่อนกินหายาก เหลือเกิน กับช่วงเวลาดึกๆขนาดนั้น
สุดท้ายเลยนั่งกินเงียบๆภายในกล่องสี่เหลี่ยมอีกตามเคย
RED แค่ 3 ขวด ก็กำลังหลับได้สบายๆ
คุยโทสับกะเทอประมาณ 1 ชั่วโมง
ตอนนี้เราตกลงเป็นเพื่อนกันไปก่อน
แต่ใจฉันยังไม่อยากจะเป็นแค่เพื่อน
แต่เทอบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะมีใคร
เทอบอกว่าไม่อยากให้มีการทะเลาะกันระหว่างเราสองคน
ถ้าหากคบกันแบบเพื่อน มิตรภาพคงดีกว่า และคงจะยาวนานกวว่า

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

งดเสพยาชนิด C ชั่วคราว

เมื่อวานเป็นวันแรกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคุยกะเทอ
ฉันสามารถหลับได้โดยที่ไม่มีอาการอยากคุยกะเทอ
เป็นการที่ยาวนานเป็นสิบชั่วโมง

พร้อมกับเป็นการให้เวลาตัวเอง ได้อยู่กะตัวเอง
ทำให้ได้คิด
ฉันอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว
อย่าไปไหนอีกเลย...ใจ
ยาชนิด C ดูๆแล้วก็คงร้ายแรงพอๆกะชนิด A แลB ที่เคยเจอมาแล้ว
ชนิด A ที่ทำฉันเกือบตาย ซมซานแทบลุกไม่ขึ้น ฉันใช้เวลาเลิกอยากยาชนิดA ตั้งสามปี แต่จนถึงวันนี้เวลาผ่านมาเกือบเจ็ดปีแล้ว แต่กลิ่นยาชนิดนี้ยังลอยวนเวียนรอบๆตัวฉันตลอดเวลา กลิ่นนั้นไม่ได้ลอยไปไหนไกลเลย
"กลิ่นมันแรง"
ยังคงโหยหายาเสพติดชนิดนี้ตลอดเวลาแม้จะเลิก ตัดขาดจากยานี้แล้ว จนกระทั่งได้มาพบยาเสพติดชนิดใหม่ คือชนิด B นั่นเอง
ฉันไม่ได้ติดยาชนิดนี้ในทันทีที่พบเจอเหมือนชนิดแรกหรอก
แต่ชนิดนี้ค่อยๆเอาใจ พร้อมกับแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่บ่งบอกว่า"ยา"ชนิดนี้ดี บวกกับทำให้ฉันมีเพื่อนคุยแก้เหงา ในช่วงที่อาการกำลังลงแดงเมื่อต้องเลิกยาชนิดแรก เวลาผ่านไปเกือบปี ฉันเลยตัดสินใจที่จะเสพติดยาชนิดนี้ ทั้งๆที่ไม่ค่อยถูกใจนัก แต่เมื่อยาชนิดนี้เริ่มไปจากฉัน ความเจ็บปวดจากการแพ้ยาชนิดนี้เริ่มสำแดง
เมื่อรู้ว่ายาชนิดนี้ไปหาร่างสิงห์สถิตใหม่
กว่าจะเลิกยาชนิดนี้ได้ใช้เวลา หนึ่งปีเต็ม ก็คือ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเอง อาการแย่ไม่เท่าชนิดแรกละ เพราะเริ่มมีภูมิคุ้มกัน แต่ยังไงก้มีแต่เสียกับเสีย
จนได้มารู้จักกับเทอ(ชนิด C ) ฉันรู้สึกว่ายาชนิดที่สามนี้ก็กลิ่นหอมน่าดู หากใครได้เสพ คงไม่พ้นคำว่า "ติด" แน่นอน
ลักษณะทางกายภาพ เหมือน "ชนิด A" ไม่มีผิด
กลิ่นหอมแรง เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ได้พบเห็นและได้ใกล้ชิด
สี่ครั้งกับการนัดพบของเราสองคน
ใจฉันสั่น หวั่นไหวตลอดเวลา
ไม่กล้าสบตา
ไม่กล้าเรียกชื่อเทอ
ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก
ตั้งแต่แต่เจอเทอครั้งแรก อาการอยากคุยโทสับก็เกิดขึ้นกับฉันทุกวัน
ไม่ว่าจะเหงาหรือไม่ ฉันก็อยากจะคุยกะเทอ
จนฉันต้องเอาหมายเลขที่ระบุยี่ห้อยาชนิดนี้ทิ้งไป

และคิดว่าจะไม่สรรหาเบอร์นี้มาใส่ในเครื่องสมองอีกต่อไป
แต่แล้วหนึ่งอาทิตย์ถัดมาหมายเลขยาชนิดนี้ก็โผล่มาในเครื่องมือถือฉัน

ถ้าฉันเข้มแข็งกว่านี้ คงไม่รับ
แต่นี่อาการของฉันก็คือ ยังอยากคุยกะเทอ เพียงแต่พยายามไม่คุย
แค่กริ้งแรกฉันก็รับแล้ว...

และความรู้สึกว่าเหมือนได้เสพยาก็เริ่มเข้ามาครอบงำความรู้สึกทั้งหมด
จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เมื่อวานกะวันนี้อาการดีขึ้นละ
ไม่มีอาการอยากคุยโทสับกะเทอแล้ว งดคุยชั่วคราวไปก่อนละกันนะ
กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติ
และได้แต่หวังว่ายาชนิดนี้ คงไม่ทำให้ฉัน"ติด"เหมือนสองชนิดแรกที่เคยเจอมา

งดเสพยาชนิด C ชั่วคราว

เมื่อวานเป็นวันแรกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคุยกะเทอ

ฉันสามารถหลับได้โดยที่ไม่มีอาการอยากคุยกะเทอ

เป็นการที่ยาวนานเป็นสิบชั่วโมง


พร้อมกับเป็นการให้เวลาตัวเอง ได้อยู่กะตัวเอง

ทำให้ได้คิด

ฉันอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว

อย่าไปไหนอีกเลย...ใจ

ยาชนิด C ดูๆแล้วก็คงร้ายแรงพอๆกะชนิด A แลB ที่เคยเจอมาแล้ว

ชนิด A ที่ทำฉันเกือบตาย ซมซานแทบลุกไม่ขึ้น ฉันใช้เวลาเลิกอยากยาชนิดA ตั้งสามปี แต่จนถึงวันนี้เวลาผ่านมาเกือบเจ็ดปีแล้ว แต่กลิ่นยาชนิดนี้ยังลอยวนเวียนรอบๆตัวฉันตลอดเวลา กลิ่นนั้นไม่ได้ลอยไปไหนไกลเลย

"กลิ่นมันแรง"

ยังคงโหยหายาเสพติดชนิดนี้ตลอดเวลาแม้จะเลิก ตัดขาดจากยานี้แล้ว จนกระทั่งได้มาพบยาเสพติดชนิดใหม่ คือชนิด B นั่นเอง

ฉันไม่ได้ติดยาชนิดนี้ในทันทีที่พบเจอเหมือนชนิดแรกหรอก

แต่ชนิดนี้ค่อยๆเอาใจ พร้อมกับแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่บ่งบอกว่า"ยา"ชนิดนี้ดี บวกกับทำให้ฉันมีเพื่อนคุยแก้เหงา ในช่วงที่อาการกำลังลงแดงเมื่อต้องเลิกยาชนิดแรก เวลาผ่านไปเกือบปี ฉันเลยตัดสินใจที่จะเสพติดยาชนิดนี้ ทั้งๆที่ไม่ค่อยถูกใจนัก แต่เมื่อยาชนิดนี้เริ่มไปจากฉัน ความเจ็บปวดจากการแพ้ยาชนิดนี้เริ่มสำแดง

เมื่อรู้ว่ายาชนิดนี้ไปหาร่างสิงห์สถิตใหม่

กว่าจะเลิกยาชนิดนี้ได้ใช้เวลา หนึ่งปีเต็ม ก็คือ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเอง อาการแย่ไม่เท่าชนิดแรกละ เพราะเริ่มมีภูมิคุ้มกัน แต่ยังไงก้มีแต่เสียกับเสีย

จนได้มารู้จักกับเทอ(ชนิด C ) ฉันรู้สึกว่ายาชนิดที่สามนี้ก็กลิ่นหอมน่าดู หากใครได้เสพ คงไม่พ้นคำว่า "ติด" แน่นอน

ลักษณะทางกายภาพ เหมือน "ชนิด A" ไม่มีผิด

กลิ่นหอมแรง เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ได้พบเห็นและได้ใกล้ชิด

สี่ครั้งกับการนัดพบของเราสองคน

ใจฉันสั่น หวั่นไหวตลอดเวลา

ไม่กล้าสบตา

ไม่กล้าเรียกชื่อเทอ

ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก

ตั้งแต่แต่เจอเทอครั้งแรก อาการอยากคุยโทสับก็เกิดขึ้นกับฉันทุกวัน

ไม่ว่าจะเหงาหรือไม่ ฉันก็อยากจะคุยกะเทอ

จนฉันต้องเอาหมายเลขที่ระบุยี่ห้อยาชนิดนี้ทิ้งไป


และคิดว่าจะไม่สรรหาเบอร์นี้มาใส่ในเครื่องสมองอีกต่อไป

แต่แล้วหนึ่งอาทิตย์ถัดมาหมายเลขยาชนิดนี้ก็โผล่มาในเครื่องมือถือฉัน


ถ้าฉันเข้มแข็งกว่านี้ คงไม่รับ

แต่นี่อาการของฉันก็คือ ยังอยากคุยกะเทอ เพียงแต่พยายามไม่คุย

พอเทอโทมาเลยรีบบรับ

และความรู้สึกว่าเหมือนได้เสพยาก็เริ่มเข้ามาครอบงำความรู้สึกทั้งหมด

จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เมื่อวานกะวันนี้อาการดีขึ้นละ

ไม่มีอาการอยากคุยโทสับกะเทอแล้ว งดคุยชั่วคราวไปก่อนละกันนะ

กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติ

และได้แต่หวังว่ายาชนิดนี้ คงไม่ทำให้ฉัน"ติด"เหมือนสองชนิดแรกที่เคยเจอมา


วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

ให้เวลาตัวเอง ...ทำใจ

เศร้า
ว่ะ
เทอบอกว่า จะคุยกับทุกคนแบบเพื่อนเท่านั้น
เทอบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะมีใคร
เทอยังอยากเป็นอิสระ
เทออยากใช้ชีวิตสำหรับนั่งในวงเหล้ากะเพื่อน

เทอรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกะเทอเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
เทอบอกว่า งั้น เราตัดไฟแต่ต้นลมดีไหม

ทำไมวะ
ห้ามฉันไม่ให้ทำอย่างอื่นได้ แต่จะมาห้ามฉันเรื่องชอบเทอ นั้น ยาก...

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

ซื้อความสุข

วันนี้ชวนเทอไปดูหนังแล้ว
แต่ว่า
เฮ้อ
สรุป
ฉันกำลังใช้เงินซื้อความสุข
เป็นไปตามที่เพื่อนฉันว่าจริงๆ
มีเพื่อนคนนึงบอกว่าการที่จะรัก ชอบรุ่นน้องนะ มันเป็น "ภาระ" อย่างนึง
เพราะว่าในวัยที่กำลังเรียนอยู่นั้นฉันรู้ ว่าจะต้องใช้จ่ายเงิน
และยังไม่มีรายได้
อันนี้มันเป็นความจิง

อยากไปเจอเทอ ก็ต้อยอมออกตังค์
อยากไปดุหนัง ก็ต้องยอมออกตังค์
อยากไปกินข้าวกะเทอสักมื้อ ก็ต้องออกตังค์เอง

แบบนี้ ฉันจะมีความสุขจริงหรอ
สุ้อยู่กับตัวเอง แบบเดิม แม้จะมีช่วงเวลาที่เหงาๆ บ้าง
แต่เราก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดีไม่ใช่หรอ

และอีกอยย่างนะ ฉันกลัวถูกเด็กหลอกว่ะ
เฮ้อ
ความรู้สึกตอนนี้ หวั่นๆ
หรือว่าฉันชอบใครไม่เป็น

เย็นนี้จะไปดุบุปผาราตรี3.2 เลยชวนเทอไปด้วย
แต่ดูท่าแล้ว
คงไม่สนุกงะ
เริ่มคิดทางเศรษฐศาสตร์มากขึ้น 555

มันจะสิ้นเปลืองงบประมาณบ่อยไปไหม
พักนี้จ่ายเงินอย่างง่ายดาย
เพื่อให้ได้ความสุขลมๆแล้งๆมา
แต่สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งเหงาคนเดียวในกล่องสี่เหลี่ยมทุกที
แล้วแบบนี้ยังจะไปดูหนังเรื่องโปรดอยู่อีกหรอ
....????

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

This shoe is a math of the one in the cupbord

เทอเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเอง
น่ารัก และเท่นิดๆ
คุยเก่ง คุยสนุก แบบว่าคารมเป็นต่อเลยละ
เป็นคนไว้หนวด เครา และจอน
เป็นไปตามแบบฉบับที่ฉันชอบ
สงสัยว่าฉันจะชอบคนที่หน้าตา และรูปลักษณ์ภายนอก
เพราะว่าเทอเป็นคนชอบกินเหล้า จากที่ได้คุยมาบ้าง เห็นเทอบอกว่าเคยติดบุหรี่ และเพิ่งเลิกสูบมาได้ไม่นาน
ส่วนตอนนี้นะ เทอและเพื่อนๆในกลุ่มพากันกินเหล้าบอ่ยมาก
ส่วนเรื่องผู้หญิงนั้น ไม่ต้องพูดถึง มีคนมาชอบเทอตรึมเลย และเทอก็คงมีเก็บไว้ในสต็อคหลายคน
ฉันเลยสรุปได้ว่าเทอ กะล่อน ปลิ้นปล้อน เจ้าชุ้พอตัว
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย
เพราะสิ่งที่เทอเป็นอยู่ทั้งหมด
มันเป็นสิ่งที่ฉันหามานาน
ฉันชอบแบบนี้นี่เอง
เทอคือสิ่งที่ฉันรอคอยมานาน
และแล้วรองเท้าอีกข้างที่ฉันตามหามานาน ก้คือเทอนั่นเอง
แต่ไม่รู้ว่าเทอจะยอมอยู่เป็นคู่กับรองเท้าอีกข้างของฉันไหม
รองเท้าอีกข้าง ที่ฉันเก็บไว้อย่างดี เก้บไว้มานาน
ถึงเวลาแล้วที่จะได้เจอคู่รองเท้าที่เข้าคู่สักที

The one

วันนี้นั่งทำงานด้วยใจเหม่อลอย
นั่งนึกถึง คิดถึงทั้งวัน
บางคนอาจฟังดูเป็นเรื่องเล่ยนๆ แต่เชื่อฉันสิ ความรุ้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ
ฉันเป็นเอามากใช่ไหม
หลังจากมื้อเที่ยงเสร็จ ฉันกำลังฟุปที่โต๊ะทำงานเพื่อจะงีบสักหน่อย กะลังงีบและนอนคิดถึงเทอ
และเสียงโทสับก้ดังขึ้น
เทอโทมา
เทอจิงๆด้วย
ปกติเทอไม่เคยโทมาหาฉันตอนกลางวันแบบนี้นะ
เทอโทมาบอกว่าเพิ่งตื่น
และกะลังสั่งข้าวมื้อแรกของวันนี้
ดีใจจัง
ที่เทอโทมา
ดีใจแบบไม่มีเหตุผล
หรือว่าบางทีเหตุผลมันมี แต่ฉันเลือกที่จะไม่พูด
เย็นนี้ฉันคงต้องไปเจอเทอตามที่นัดไว้แหงๆ
เพราะว่าความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวล ตอนนี้ รวมเป็นหนึ่งเดียว ไว้ตรงที่"เทอ"
ต่อไปนี้ ฉันคงไม่พยายามลบเบอร์เทอแล้วละ เป็นไงเป็นกัน
ให้มันค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ต่อไป

นางสาวไทยมาแล้วจ้า

ช่วงนี้เป็นช่วงรักเด็ก ตามคอนเสปของนางสาวไทย
ตลอด1 ปีที่ผ่านมาชอบน้องปี4คนนึงอย่างเปิดเผย
แต่แล้วอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ถูกแฟนของน้องมันบอกห้ามยุ่ง ห้ามโทหาน้องปี4คนนั้นเด็ดขาด
เลยได้มารู้จักกะน้องปี2คนนี้
คนที่ฉันเพิ่งเขียนถึงครั้งที่แล้วว่า เป็นเหมือนยาเสพติด
ทำให้ฉันติดๆๆๆ

ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยนะ กับการที่ต้องมาชอบรุ่นน้อง
เมื่อก่อนตอนอยู่มัธยม เคยมีรุ่นน้องคนนึงมาชอบฉันมากๆ
เป็นรุ่นน้องแค่ปีเดียว แต่ฉันยังรับไม่ได้เลย กับการที่จะต้องคบกะรุ่นน้อง
เลยปฏิเสธเขาไป
ทำไมปีสองปีนี้ ถึงชอบแต่รุ่นน้องเลยน๊า
ปีนี้รุ่นน้องมาแรง!!!
หรือฉัน เปลี่ยนไปแล้ว

ฉันติดยา 'เสพติด'

ช่วงสองอาทิตย์ก่อน ได้รู้จักยาชนิดหนึ่ง เมื่อลองได้เสพด้วยการพูดคุยแล้ว รู้สึกว่าคุยกันถูกคอมาก และเมื่อมาเจอหน้ากันหลังคุยกันวันนั้น ก็ยิ่ง"ติด"



แบบว่าสไตล์นี้ ใช่เลย



เพิ่งรุ้จักกันเพียงอาทิตยืเดียว ก็แอบชอบเขาซะแล้ว แบบว่า"รัก" ก็น่าจะใช้แทนได้เลย

เราไปกิรข้าวด้วยกัน

ไปเดินไนท์ด้วยกัน

ไปนั่งร้านที่ริมน่านด้วยกัน ในค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติค

แล้วก้แยกย้ายกันกลับ

หลังจากนั้น ฉันโทไป

ก้เจอแต่ "รอสาย"

เขาไม่ค่อยอยากรับโทสับฉัน

แถมยังกดตัดสายฉันอีก

แต่ฉันก็ยังโทไปอีก จนเขาต้องกดตัดๆๆๆๆๆ ไปทุกรอบที่ฉันโทไป

ความร้สึกดีๆ ก่อนหน้านี้ ตอนที่ไปเดินไนท์ด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน ล่ะ???

มันคืออะไร หรือว่าต่างคนต่างแค่ 'เหงา'

ฉันเลยตัดสินใจทำลายยา 'เสพติด' นั้นทิ้งในคืนนั้นทันที

เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น

และตั้งใจไว้ว่าจะไม่แวะไปข้องเกี่ยวกับ "มัน"อีก

ตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา

ฉันถามตัวเองตลอดเวลา ว่าความสุขที่แท้จิงนั้น คืออะไร

มันคือความสุขจากข้างในใจ การที่ไม่มีใครมาเบียดเบียนหัวใจ ...

และฉันก็ลืมเทอไปแล้ว เบอร์ติดต่อก้ไม่มีแล้ว

มีเวลาอยุ่กับความคิด อยุ่กับตัวเอง และเต็มที่กับงานได้มากขึ้น

แต่แล้ว

เบอร์โทคุ้นๆก็ดังขึ้นมาที่หน้าจอโทสับ

เป็นเบอร์เขานั่นเอง

ตายละ มีคนเอายาเสพติดมาให้ฉันอีกแล้ว

เทอบอกว่าอีก20นาทีจะมาถึงข้างล่างหอ แล้วไปกินข้าวด้วยกัน

และฉันก็ ตอบตกลง

แพ้ใจตัวเอง เฮ้ออ ก็คนมันชอบนี่นา ทำไงได้

เราไปกินข้าวด้วยกันและไปนั่งเล่นที่ลานสมเด็จจนถึงเที่ยงคืน

มันเป็นความสุขชั่วค่ำคืนจริงๆหรือป่าวหนอ

เพราะว่าหลังจากเมื่อคืน ไม่รู้ว่าต่อไปนี้จะเป็นยังไง จะยังมีการกดตัดสายเกิดขึ้นอีกหรือไม่

แต่ ฉันก็ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนั้น

ฉันกำลังหลอกตัวเอง

เหมือนฉันกำลังติดยาเสพติด ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็ยังโหยหาตลอดเวลา

พยายามอยากยาแล้ว แต่พอมีคนเอายาเสพติดมาวางตรงหน้า ก็เหมือนเอามาล่อใจคนติดยานั่นเอง

ฉันกำลังแย่...

หลังเที่ยงคืน เทอกลับหอไปแล้ว

แต่เราก็ยังคุยกันจนถึงตี 4

ทั้งๆที่ฉันจะต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า

แต่เชื่อไหมว่า ณ ขณะที่ฉันกำลังคุยกะเทอคนนั้น ฉันไม่อยากวางสายโทสับเลย

อยากคุยๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากได้ยินเสียงเขาไปเรื่อยๆ

ไม่ใช่เพราะว่าฉันเหงาหรอกนะ

แต่ฉันรู้สึกได้ว่า คนนี้แหละใช่

ถึงจะไม่ดี ทั้งหมด

แต่แบบนี้แหละ ที่ฉันต้องการ

แต่ว่าความเสียใจคงกำลังจะเกิดขึ้นข้างในใจฉันแน่นอน

ฉันคิดว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น

วันนี้ฉันมาทำงานด้วยอาการมึนๆ เพราะได้นอนแค่ 3 ชม.



และเย็นนี้ มีนัดๆๆ

ไปดูหนังกับเทออีก

...

แล้วแบบนี้ฉันจะเลิกยาชนิดนี้ได้หรอ

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สายฝนพรำที่ใต้ตึก CE

เมื่อคืนเป็นคืนที่ฝนตกทั้งคืน
แต่เมื่อคืนก็เป็นวันนัดพบเพื่อไปอ่านหนังสือด้วยกัน ครั้งแรกของเราสองคน
ฝนตกพรำๆ
ไม่หนักมาก
เรานัดกันตอนทุ่ม
เวลานั้นฉันยังอยู่ใต้ผ้าห่ม
แต่ว่าเทอโทรมาตามหลายรอบแล้ว
ฉันไปอ่านหนังสือด้วยก็ได้
ความจริงเราต่างคนต่างอ่านที่ห้องตัวเองก่อนก็ได้
แต่ว่าฉันอยากเจอ อยากเห็นหน้า
จนต้องยอมฝ่าสายฝนไปพบเทอ
ปกติเทอไม่ชอบมาอ่านหนังสือตามใต้ตึกต่างๆนะ
แต่นี่ฉันเป็นคนนัดเทอเมื่อสองวันก่อน
และเมื่อถึงเวลา เทอก็จะไปอ่านให้ได้
เทอ...ก็อยากเจอฉัน ด้วยใช่ไหม???


กว่าฉันจะลุกจากผ้าห่มก็สองทุ่มแล้ว
เราเจอกันที่ใต้ตึก CE
เทอใส่เสื้อสีฟ้ามีลาย
สดใสเหลือเกิน
เราอยู่ด้วยกันถึงเที่ยงคืนกว่าๆ
ก็พากันกลับ
ฝนยังไม่หยุดตก
ฉันให้เทอใส่เสื้อกันฝน
แต่เทอไม่ยอมใส่
กลัวไม่หล่อ ไม่เท่
ให้ยืมร่มก็ไม่เอา เกรงใจ
...
...
แล้วสุดท้ายฉันก็บังคับให้กางร่มกลับหอ
..
..
เมื่อไหร่ค่ำคืนนี้จะหมุนมาถึงอีก

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

น่ารักมากกกกกกกก

222

วันที่มีความสุขที่สุด

เดินในงานปีใหม่ เห็นไนท์เดินมากับเพื่อน เลยเข้าไปขอถ่ายรูปด้วยขอบคุณสำหรับรอยยิ้มในวันนั้น ถึงแม้ว่าไนท์จะไม่คุย ไม่ทักทาย ไม่ถามฉันสักคำแต่ แค่ได้เห็นหน้าเทอ ก็สุขใจ..

Night

น้องชายสุดที่ร๊าก

ฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

The Man in My Dream

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

ตัดสินใจเลือกทางเดิน

ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันหวังไว้จะไม่มีวันเป็นจิง
แต่ในเมื่อฉันเลือกทางเดินนี้แล้ว
ฉันจะอดทนต่อไป
ฉันจะรอ
เมื่อวานก่อนที่พี่จะขึ้นไปรร.
พี่โทมาบอกว่าจะไม่มาหาฉัน
เพราะว่าจะรีบกลับ
ไปเถอะ
ไปดีนะ ขอให้โชคดีนะ
เรื่องมานเศร้า น้ำตาไหลหลังจากพี่วางสายไป
สองคืนที่ผ่านมา เป็นอะไรที่น่าเจ็บปวดที่สุด เพราะฉันรู้ว่าพี่นอนกับผู้หญิงคนนั้น
แต่ฉันก็ยังบอกตัวเองว่ายังไงก็จะรอ
รอสักวันพี่จะต้องกลับคืนมาเป็นของฉัน
ผ่านไปได้สักพัก พี่เคาะประตูห้องเพื่อนฉันหอในเมืองที่ฉันไปพักด้วย
พี่มาหาฉันจิงๆ
พี่เห็นฉันกำลังร้องไห้
พี่ไม่พูดอะไร
ฉันลงไปส่งพี่ข้างล่างหอ
เราสองคนต่างมองหน้า
รู้สึกปวดร้าวจนตัวสั่น
พี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ เมื่อคืนนอนกับผู้หญิงคนอื่น
ทำไมมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
ผู้หญิงคนนั้นกลับไปแล้ว
พี่ถึงยอมมาเจอฉัน แต่พี่ก็ไม่พูดอะไรสักคำ
แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจได้ตอนนั้นคือ ยังไงฉันก็จะรอ และยอมให้อภัยพี่
เมื่อวานตอนเย็นพอพี่ไปถึงรรง
พี่ได้โทมาบอกด้วยว่า กลับไปถึงแล้ว
เวลานั้นฉันเฝ้าแม่พี่ที่ป่วยอยู่รพ.
พร้อมด้วยพี่ชายพี่สะใภ้ของพี่
กำลังใจที่พวกพี่ๆเขาให้กับฉัน
ทำใหฉันยังพอมีความหวังที่จะก้าวเดินต่อไปในเส้นทางนี้
ฉันจะรอ

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2552

ยินยอม

1. สิ่งที่มองไม่เห็น
พยายามตัดใจ และทำที่จะปล่อยวางเรื่องที่มันร้ายๆไปได้แล้ว
วันเวลาผ่านไปได้4-5เดือน
พี่ก็โผล่เข้ามาอีก ชวนไปบ้าน พาไปแนะนำให้ญาติๆรู้จัก ฉันยังงงๆ
กับสิ่งที่ทำ แต่ว่าความรู้สึกไม่สนใจแล้ว เจ็บแต่ไม่เป็นไรขอแค่ได้เจอพี่ ความรู้สึกตอนนั้นนะ

ขึ้นไปบ้านพี่สองวันกับหนึ่งคืน
พี่ไม่ค่อยสนใจฉัน
แต่ญาติๆพี่ทุกคนต่างให้กำลังใจฉัน
ทุกคนไม่อยากให้พี่ไปกะผู้หญิงคนนั้น

พี่ยอมไปบ้านฉัน แต่กว่าจะยอมไป ...พี่เขาโลเลตั้งนาน
ไปได้4วัน3คืน
บางขณะของวันดูพี่มีความสุขดี
แต่บางเวลาเหมือนพี่คิดถึงคนอื่น
พี่เป็นกังวลถึงเรื่องอื่น
แต่ฉันกำลังหลอกตัวเอง หลอกความรู้สึกตัว
ไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
ต่างคนต่างยิ้มให้กัน
แต่ภายในใจมันเจ็บปวดลึกๆ
สิ่งที่ฉันตั้งคำถามอยู่ในใจตลอดเวลา ก็ไม่กล้าถาม ว่าสรุปแล้วพี่จะเอายังไงกับฉัน
คิดแค่ว่าเวลานั้นมีพี่อยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว ไม่สนใจความรู้สึกใคร แม้กระทั่งพ่อ แม่ และพี่ๆ
ก็สิ่งที่ฉันต้องการทำคือ อยากให้พี่ไปบ้านฉันให้ได้สักครั้งหนึ่ง
ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม และสุดท้ายพี่ก็ยอมไป แต่ฉันก็ต้องยอมเจ็บปวด เพราะใจพี่ไม่ได้อยู่ที่ฉัน
เรื่องเลวร้ายกำลังจะหมดไปใช่ไหม ก็ในเมื่อพี่ก็พาฉันไปรู้จักญาติๆพี่ และยอมไปรู้จักญาติฉัน
แต่ว่า สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นกำลังจะเกิด
มันเพิ่งเกิดเมื่อกี้นี้เอง

2. ความหวัง

หลังจากที่เรากลับจากบ้านฉันตอนปีใหม่ พี่ก็ไม่ได้โทมาเลย
จนเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว ญาติพี่โทมาบอกว่าแม่พี่ป่วยหนัก อยุ่ห้องไอซียู
และให้ฉันไปเฝ้าเป็นเพื่อพี่หน่อย
พี่ไม่ค่อยอยากให้ไป
แต่ฉันก็ไป เพราะมันเป็นเพียงโอกาสเดียว ที่ฉันจะได้เจอหน้าพี่ และฉันก็อยากไปเยี่ยมแม่พี่ด้วย
ตัดสินใจไป แต่สิ่งที่ฉันได้รับก็คือ พี่เย็นชากับฉัน ฉันรู้ว่าพี่กลุ้มใจเรื่องแม่ป่วยหนัก และฉันรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังโทมา
ทุกครั้งที่พี่คุยโทสับกะขา พี่จะคุยไม่ดีกับฉัน
ฉันบอกกับตัวเองว่าต้องอดทน เพราะยังไงฉันก็จะทำให้ได้พี่กลับคืนมา
ไม่ว่าจะเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ฉันเชื่อว่ามันต้องดีกว่าเดิม ฉันหวังอย่างงั้น

วันที่สองแล้วที่แม่พี่นอนป่วยอยู่ห้องไอซียู ฉันไปเยี่ยมครั้งที่สอง พี่คุยกับฉันดีขึ้น
วันที่สามแม่พี่ป่วยหนักต้องฟอกไต เย็นนนัน้เราสองคนนั่งเฝ้าแม่พี่อยุ่หน้าห้อง พี่บอกอาการของแม่พี่ และเริ่มคุยกะฉันในเรื่องอื่นๆที่พี่ไม่สบายใจให้ฉันฟัง
ฉันรับรู้ได้เลยว่า พี่ก็ยังมีฉันอยู่ในใจ ฉันแอบหวังแบบนั้น

วันที่สามฉันไปเยี่ยมแม่พี่อีก ตอนที่เรานั่งกินข้าวด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นโทมา น้ำเสียงและสีหน้าของพี่เปลี่ยนไป พี่ไม่ยอมหันหน้ามาทางฉัน
พี่พยายามพูดเสียงเบาที่สุด เพื่อไม่ให้ฉันรู้ว่าคุยอะไร แต่ฉันรู้ว่ากำลังคุยกะผู้หญิงคนนั้น
น่าเจ็บใจนัก ฉันแกล้งเรียกชื่อพี่อยู่ใกล้ๆโทรศัพท์ เพื่อให้"มัน" ได้รู้ว่าพี่อยู่กะฉัน
พี่ไม่คุยต่อ รีบตัดสายไป และก็ทำหน้างอใส่ฉัน
แต่ฉันยังมีความหวังอีกว่า ฉันจะต้องได้พี่กลับมา

3. สูญสิ้นความหวัง
เมื่อวานเป็นวันศุกร์ ฉันรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องมาเยี่ยมแม่พี่แน่ๆ แล้วมันก็จิง เมื่อคืนตอนสี่ทุ่มครึ่งฉันโทไป
ผู้หญิงคนนั้นรับสายจริงๆ
-ขอสายพี่...ค่ะ
เสียงฉันสั่น พี่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นจิงๆด้วย
-พี่นอนกับผู้หญิงคนนั้นหรอ
พี่ตอบ
-ไม่ใช่ บอกว่าอยู่บ้านครูคนอื่นกัน
แต่ฉันไม่เชื่อ คิดไปต่างๆนานา
เราคุยกันยังไม่ทันรู้เรื่องโทสับก็ถูกตัดสายไป
ฉันปล่อยโฮเป็นชั่วโมง
ผ่านไปชั่วโมงกว่า ครูผู้ชาย(พี่คนนั้น)ที่เคยโทมาเล่าเรื่องของพี่กับผู้หญิงคนนั้นก็โทมา
ฉันอยากรู้ รีบรับสายทันที
พี่คนนั้นเล่าให้ฉันฟังว่าเมื่อวานครูผู้หญิงคนนั้นได้ย้ายกลับไปบ้านเกิดมันแล้ว
พวกครูที่นั่นพากันไปส่งครูคนนั้น(ระยะทาง200กม)
แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นมันวกกลับมาเยี่ยมแม่พี่และมาหาพี่
พี่คนนั้นบอกว่าให้ฉันหายกังวลได้เลย เพราะว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องหายไปจากชีวิตพี่ เพราะความห่างไกล
และสิ่งที่ฉันคิดก็คือ ฉันจะอดทนรอพี่ ต่อไป
มันไปได้ก็ดี

เมื่อเช้าฉันโทไปหาพี่แต่เช้า เพราะว่านอนไม่หลับทั้งคืน และยังรู้สึกตื่นเช้าอีก
พี่รับสาย
และมีเสียงผู้หญิงคนนั้นลอดเข้ามาในสาย
มันก็คงอยากให้ฉันรู้ว่ามันอยู่กะพี่

เราคุยกันได้สักพักพี่ก็ตัดสายไปอีก

ตอนเที่ยงฉันเกิดอยากให้ผู้หญิงคนนั้นมันได้รู้บ้างว่าพี่กับฉันไปไหนกันมาช่วงปิดปีใหม่
ฉันเลยส่งข้อความว่า "พี่...คะ รูปงานปีใหม่ที่เราไปเที่ยวบ้านพี่และบ้านฉันอัดเสร็จแล้วนะเด๋วถ้าพรุ่งนี้ว่างจะเอาไปให้ดู"
พี่คงจะไม่พอใจมาก เพราะว่ามือถือที่พี่ถืออยู่เป็นของผู้หญิงคนนั้น และแน่นอนข้อความนี้ ต้องผ่านการอ่านจากผู้หญิงคนนั้นก่อน

หลังจากส่งข้อความแล้ว สิ่งที่ฉันกลัวคือ กลัวพี่จะโกรธฉัน เพราะว่าความลับของพี่แตกไปแล้ว
แต่ก็ยังนึกสะใจอยู่ไม่น้อยเลย ที่อย่างน้อยให้"มัน"ได้รับรู้ซะบ้างว่าความเจ็บปวดที่มันเคยทำกับฉันเป็นยังไง

และแล้วพี่ก็โทกลับมาหลังจากอ่านข้อความเสร็จ
ฉันไม่ได้รับทันทีเพราะว่าขับมอไซค์อยู่
เมื่อมาถึงหอเพื่อนในเมือง
พี่โทมาอีกรอบ
แต่ยังไม่ทันรับ

ฉันว่าจะโทกลับไป แต่คิดว่าที่พี่โทมาต้องเป็นเรื่องข้อความที่ส่งไปแน่ๆ เพราะว่าอีผู้หญิงคนนั้นมันต้องถามถึงเรื่องในข้อความ
ฉันนั่งทำใจสักพัก รวบรวมความกล้า โทกลับไปหาพี่
พี่ถามว่าฉันส่งข้อความไปหาพี่ทำไม
ฉันเลยบอกว่าฉันอัดรูปเสจแล้วและว่าจะเอามาให้ดูกัน
พี่รีบตัดคำว่า ไม่อยากดู
และพี่ก็พูดว่า สิ่งที่ฉันทำไปนั้น ทำให้พี่ยุ่ง วุ่นวาย เอาละซิ ผุ้หญิงคนนั้นมันคงกำลังออเซาะถามพี่อยุ่ข้างๆพี่
ฉันรีบบอกวางสายไปเพราะกลัวพี่จะว่าฉันต่อหน้ามัน เดี๋ยวมันจะได้ใจ

สามชั่วโมงถัดมาฉันก็โทไปหาพี่อีก พเอถามอาการของแม่พี่
และแล้วพี่ฉันหลงไปถามว่า เคืองหรือ ที่ส่งข้อความไป
พี่เลยตะคอกใส่ฉันเลยว่า ส่งข้อความมาทำไม
และบอกว่า ห้ามฉันโทไปหาพี่อีก ไม่โทมาอีกเลย (พี่พูดแบบนี้ให้ฉันดดยที่มีผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วย)
มันคงจะสะใจที่พี่พูดกับฉันแบบนั้น
มันน่าเจ็บใจนัก
ความดีที่ฉันทำมาตลอด ต้องพังลงเพราะตัวฉันเอง

ฉันคิดว่าฉันจะยังไม่ยอมหยุดแค่นี้หรอก
เพราะว่าพรุ่งนี้ผู้หญิงงคนนั้นก็ไปแล้ว
แค่วันนี้ฉันอดทนให้มากกว่านี้

4.ภาวะจำยอม

คืนนี้พี่ก็คงยังอยู่กับผู้หญิงคนนั้นที่ที่ฉันเคยไปนั่งกับพี่ ตรงหน้าห้องไอซียู
พี่ไม่ยอมให้ฉันไปเยี่ยมแม่พี่
และบอกว่าไม่จำเป็นต้องไป
พี่ไม่รักษาน้ำใจฉันเลย

ฉันตอนนี้สักดิ์ศรีไม่มีเหลือ
ในเมื่อมันหมดไป ไม่มีเหลือแล้ว
ก็ให้มันถึงที่สุด
ฉันจะยอม ยอม ยอมให้วันนี้เป็นของมัน แต่สักวันต้องเป็นวันของฉัน

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

ใกล้-ไกล

จ่าย15บาทเพื่อให้ได้เขียน


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่นาน เราก็ห่างกันเกือบปีแล้ว


ปีใหม่ที่ผ่านมาฉันเห็นเทอ เจอเทอ แต่ว่าเหมือนเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เมื่อวานฉันก็เพิ่งเห็นเทอ
แต่ก็ยิ่งมั่นใจว่าเราไม่รู้จักกัน
เทอทำเหินห่างกะฉันมากมาย สิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นไปได้ก็เป็นไปได้ สิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปไม่ได้
ความรู้สึกลึกๆรู้อยู่แก่ใจมาตลอด
ว่าสิ่งที่ฉันหวังจะไม่ได้สมหวัง

คำตอบมันชัดเจนแล้ววันนี้

สงบจมจ่อมอยู่ในพวังค์ได้พักใหญ่แล้ว
แต่แล้วเมื่อได้เจอหน้าเทอ ฉันก็เสียใจและร้องไห้อีก

อยากได้เทอมาเหมือนเดิม
ทำทุกอย่าง
ศักดิ์ศรีไม่เหลือแล้ว
ก็เพื่อให้ได้เทอกลับมา
ไม่ว่าจะยังไงก็ช่าง
ฉันจะอดทนรอ