ผู้ติดตาม

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

โลกนี้มันสับสนนัก!!

ครั้งแรกที่เราเจอกัน คือที่ร้านอิ่มอุ่น หลัง มน.
"เพียงพบครั้งแรก ตัวฉันแอบจ้องมองเธอ"
ฉันนั่งตรงข้ามกับเธอ
อย่าเพิ่งงง
เพราะวันนั้นเราไปกินข้าวด้วยกัน 4คน
มีเทอ และเพื่อนๆฉันอีก 2คน
เทอไปในฐานะน้องชายของเพื่อนคนหนึ่งที่ไปด้วยกัน


แต่ทำไมฉันถึงเพิ่งเคยเห็นน้องชายคนนี้ของเพื่อน
และเทอกะฉันห่างกัน ถึง 5 ปี
ฉันจึงรู้จักแต่น้องชายคนโตของเพื่อนเท่านั้น

วันนั้นพวกฉันมัวแต่คุยถามไถ่ แข่งกันพูด จนเทอนั่งนิ่ง เพราะเพื่อนตัว ไม่ยอมแนะนำน้องชายคนอื่นรู้จัก
ฉันจึงชวนเทอคุย
เมื่อต้องสบสายตากัน
ฉันจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง รู้แต่เพียงว่า ถูกชะตากับเทออย่างบอกไม่ถูก

เราก็คุยกันถูกคอมากเลยทีเดียว

หลังจากนั้นเราก็เปนเพื่อนในเฟสบุค

และอีกไม่กี่เดือนต่อมา
เพื่อนของฉันคนนี้ก็เข้ามา

มันก็ดีตรงที่พวกเราเริ่มคุยกันมากขึ้น
พวกเราเจอกัน ไปกินข้าวบ่อยมากขึ้น
แต่นั่นละ
ยิ่งเจอเทอบ่อยมากเท่าไหร่ เหมือนจะยิ่งแน่ใจในตัวเองว่าฉันรู้สึกอย่างไร
จนตอนหลังๆ
จนห่างไปสักพัก
เทอทักมาในเฟสว่า "คิดถึง"
ฉันไม่รู้ว่าก่อนเทอจะใช้คำนี้ ได้คิดสักนิดก่อนหรือยัง
เพราะนั่นยิ่งทำให้ฉันเก็บมาคิด
เทอมักเรียกฉันว่า "พี่สาว" เวลาเราคุยกันทางเฟสบุค ดูเหมือนเทอพยายามบอกกับฉันว่าเราเป็น กัน แต่ฉันกลับรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็เฉยๆ ไม่ว่าอะไร

หลังจากนั้น
เราได้มีโอกาสไปกินข้าวสองต่อสองเป็นบางครั้ง
ความรู้สึกในตัวของฉันยิ่งชัดขึ้น
เรานั่งกินข้าว พยายามคุยเรื่องทั่วๆไป เกี่ยวกับที่บ้าน
แต่ต้องคอยหลบสายตาอยู่เรื่อยๆ
ฉันมองภาพ และคิดว่าเทอเปนญาติไม่ออกเลยจริงๆ

อาทิตย์ที่แล้วฉันกลับมาจากบ้าน คนแรกที่ฉันโทรหา และอยากไปกินข้าวด้วย คือเทอ
และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราไปกินบะหมี่ด้วยกัน และต่อด้วยไอสครีมวอลล์ และฉันก็เอาของฝากเป็นพวงกุยแจจากริมเมย แม่สอดให้เทอ

และอาทิตย์นี้ เมื่อเทอกลับจากบ้าน
เทอก็โทรชวนฉันไปกินข้าวทันทีในเย็นวันนั้น
และเราก็ไปกินมื้อค่ำด้วยกันในอีกวัน
เทอเอาของฝากเป็น "กลิ๊" จากบนดอยมาให้

ฉันกำลังถามตัวเองว่าความรู้สึกทั้งหมดนี้ มันคืออะไร
มันเคว้งคว้าง รอคอย หรือสับสน หรืออะไรสักอย่าง หรือหลายอย่าง

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กล้วยไม้










หลังจากที่รู้สึกสับสนกับตัวเองมาหลายวัน เลยลองเปลี่ยนเรื่องมาดูดอกกล้วยไม้ใกล้ๆแถวนี้กันดีก่า ชื่อพันธ์ไม่รู้อะ ใครรู้ก็ช่วยบอกที
หลังจากที่รู้สึกสับสนกับตัวเองมาหลายวัน เลยลองเปลี่ยนเรื่องมาดูดอกกล้วยไม้ใกล้ๆแถวนี้กันดีก่า

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

บันทึกถึงทะเล 7

เวลา 22.30 น. รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเทอ
แต่แล้วกลับได้ยินตอบกลับมาว่า "หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้"
เป็นอันรู้กันว่า ณ บัดนาว เทอไม่ได้อยู่บนบกแล้ว
เทอลงไปอยู่ทะเลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฉันนึกเสียดาย ทำไมช่วงเวลาที่เทอขึ้นมาบนฝั่ง ฉันถึงไม่โทหาเทอ
ฉันรู้ว่าทำไม เหตุผลเดียว ฉันไม่กล้าโทไปรบกวนเทอ
และไม่กล้าจริงๆๆ

ถึงตอนนี้จะโทไปหาเทอที่ทำงานก็ได้
แต่ฉันก็ไม่กล้าอยู่ดี
ฉันรู้ตัวดี ว่าฉันเป็นใคร
ไม่สมควรโทไปรบกวนเทอ

แอบรัก เลยต้องคิดถึง และเศร้า ผิดหวัง






เิกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว
เศร้าจับจิต
คิดถึง
แต่ไม่กล้าโทไป
เทอไม่สนใจกันแล้ว
แม้แต่มิตรภาพความเป็นเพื่อน เทอก็ยังไม่เหลือไว้
แต่เทอได้ใจฉันไปหมดแล้ว

มันเป็นความผิดของฉันหรือ
ที่มาพบเทอในวันที่ฉันมีคนอื่น

เศร้าเหลือเกิน

คิดถึงโว๊ยยยยยยย



เมื่อคืนก่อนนอน คิดถึงเทอ เลยฝันเห็นเทอ
ครบปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน

และไม่ได้พูดคุยกัน

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สมุดโน๊ตสีน้ำเงิน

สองสามวันมานี้
รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดๆๆ
เพราะได้รู้ว่าเทอกลับมาจากทะเลแล้ว
ถึงแม้จะไม่มีความหวังว่าจะได้เจอเทอหรือไม่
แต่นั่นไม่สำคัญเท่า
กับการได้พูดคุยกับเทอทางโทรศัพท์ เมื่อวันก่อน เป็นเวลา 2ชม.ครึ่ง เทอโทรมา และเราคุยกันด้วยเรื่องทั่วๆไป
ส่วนใหญ่เทอจะเป็นฝ่ายคุยมากกว่า ส่วนฉันพูดไม่ค่อยออก เฮ้อออ

ขอบคุณที่คุยกัน

แล้ววันนั้นที่ได้คุยโทรศัพท์ ก็เป็นวันที่ฉันรู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยว
แต่ก็รู้สึกได้เพียงวันเดียว สองวันเท่านั้น
มาวันนี้ ฉันเริ่มรู้สึกโดดเดี่ยวอีกแล้ว
สมุดไดอารี่ที่เทอเคยให้ไว้
วันนี้เลยถูกฉันเอาออกมาวางบนโต๊ะทำงาน
เอาขึ้นมาเปนกำลังใจ หากเจอปัญหาในเวลางานก็จะได้อุ่นใจ
และแล้ววันนี้งานก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ขอบคุณสมุดโน๊ตเล่มสีน้ำเงิน ที่เทอเคยให้ฉันอีกเช่นกัน
และสมุดโนตเล่มนี้จะเป็นตัวแทนของเทอ ช่วยให้ฉันผ่านทุกอย่างไปด้วยดี เมื่อเวลาที่ฉันมีปัญหาในทุกๆเรื่อง

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อยู่อย่างไม่มีเทอ


ครบ 8 เดือนแล้ว ที่ฉันไม่ได้คุยกับเทอในแบบเดิม
8 เดือนที่ฉันไม่มีเทอให้ปรึกษา ปัญหาทุกอย่าง
8 เดือนที่ฉันไม่อุ่นใจ
8 เดือน ที่ฉันอยู่โดยไม่มีกำลังใจ
8 เดือนที่เหมือนฉันอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่สุด
8 เดือนไม่ทำรู้ว่า คำว่า "รอ" ไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว
ไม่มีความฝัน
ไม่มีความหวัง
ไม่มีกำลังใจ
มีแต่หัวใจที่ห่อเหี่ยว
8 เดือนแล้ว ที่ฉันไม่มีรอยยิ้ม
ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่ได้เล่าเรื่องต่างๆของวันให้ใครฟัง
ไม่มีใครเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง
ไม่มีใครให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ฉันคิดถึงเทอทุกวัน
และเทออยู่แห่งหนไหน
ข่าวคราวไม่เคยได้ข่าวตั้งแต่ 8เดือนที่ผ่านมา
ไม่มีความหวังที่จะได้ไปนั่งร่วมโต๊ะ กินข้าวด้วยกันกับเทออีกแล้ว
เทอไม่กลับมาอีกแล้ว
เทอจากไปแล้ว
คราวนี้เทอจากไปแล้วจริงๆ
เทอไปและไม่มีวันหันหลังกลับ
ฉันยังคงอยู่ที่เดิม
และเธอก็คงยังผ่านเส้นทางนี้บ่อยๆ
เพราะเป็นทางผ่านบ้านเทออยู่แล้ว
แต่เทอไม่แวะมาทักทายเหมือนเดิม
ฉันกำลังคิดอะไร
ฉันกำลังทำอะไร
หรือบางที ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย
อยู่ไปวันๆ
อยู่อย่างไม่มีเทอ

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

Eร่าน

อีร่าน หน้าไม่อาย อีหน้าคางคก

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เทอกับฉันและการ์ตูนเล่มโปรด

เมื่อคืนฝันเห็นเทอ
เราเดินไปเที่ยวด้วยกัน
เลือกการ์ตูนเล่มที่ชอบอ่าน พอจำได้ลางๆว่า ฉันได้เจอการ์ตูนเรื่องที่ฉันอยากอ่านมานาน
แบบว่าเป็นเล่มโปรดที่ฉันตามหามานาน
ฉันนั่งอ่านการ์ตูน
เทอนั่งอ่านหนังสือที่ชอบ
ฉันมีความสุขที่ได้เดินด้วยกันสองคน
แล้วเทอก็บอกขอไปห้องน้ำ
เวลาผ่านไปนาน ไม่เห็นเทอกลับมา
นานมากจนฉันออกตามหา
เทอหายไป
เทอหนีฉัน
เทอไม่อยากอยู่กับฉันจนต้องแอบหนีไปกันแบบนี้เลยยยยยยย
ฉันตามหาเทอด้วยความรู้สึกที่แย่มากๆ หมดหวัง หมดอาลัย
และก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝัน
แล้วมาเสียใจต่อในความเป็นจริงอีกต่อหนึ่ง เฮ้อออ
เทอคงไม่อยากเป็นแม้แต่เพื่อน กับฉัน
เทอเกลียดฉันมากขนาดนี้เลยหรือ?
ไม่น่าเลยเรา
ไม่น่าไปเฉลยความรู้สึกให้เทอรู้
ฉันเกลียดตัวเอง จนไม่อยากเห็นหน้าตัวเองแล้ว
และเทอก็คงเกลียดฉันเช่นเดียวกัน

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

รอเธอที่โลตัส

เดินดูเสื้อผ้าในโลตัส
เดินไปเรื่อยๆ
ไม่เดิน ไม่ใช่จะหาซื้อเสื้อผ้าสักตัว
เพียงแต่
คิดถึงวันนั้น
ช่วงเวลาประมาณกลางเดือนก.พ.53
วันที่เราเจอกันโดยบังเอิญขณะที่ฉันเดินดูเสื้อผ้าที่โลตัส

เธอเดินมาทักฉัน
ฉันดีใจ เพราะไม่ได้คุย ไม่ได้เจอเธอมานานหลายเดือน
พอได้เจอโดยบังเอิญ รู้สึกใจเต้นตุบๆๆ
เริ่มสงสัยในใจว่าทำไมต้องตื่นเต้นที่ได้เจอเธอ
และเราก็ไปกินข้าวด้วยกัน
และเธอก็ขับรถนำหน้ามาส่งฉันจนถึงหน้ามอ
ฉันยิ่งปลื้มเธอมากขึ้น
มากขึ้นๆๆๆ ทุกวัน
จนถึงวันนี้

เมื่อวานไปทำธุระที่โลตัส
เลยแวะเดินโซนที่เราเคยเจอกัน
อยากให้มีเธอเดินมาจากไหนสักที่
มาเจอหน้ากัน
อีกสักครั้ง
แต่ว่ามันคงไม่ถึงเวลา
หากอยากจะเจอเอโดยบังเอิญอีกสักครั้ง
บางทีอาจต้องรอจนถึงวันที่ฉันลืม ว่ารอเจอเธอ
และฉันจะรอวันนั้น
วันที่ได้เจอเธอ ที่โลตัส

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

แค่ลมปาก ฟ้าก็เปลี่ยนสี

เมื่อคืนเวลาสองทุ่มเศษ
มีเบอร์แปลกโทรมา
และแน่นอน ฉันไม่ได้รับสาย
สักพัก
ก็มีข้อความ "ไม่กล้ารับสายเลยนะ เบญ วันก่อนโทรมามีอะไรป่าว"
คำสั้นๆ
แต่ทำให้รู้เลยว่าเจ้าของเบอร์เป็นใคร
เพราะมีเพียงเทอคนเดียวที่เรียกฉันว่า "เบญ" (หมายถึงดอกเบญจมาศที่ฉันชอบ)

ฉันดีใจ น้อตาคลอเบ้า
รีบกดโทรกลับไปหาเทอทันที
เทอบอกว่าเห็นวันก่อนฉันโทรไปหลายสายแต่ไม่ได้รับ
กลัวฉันจะคิดมากเลยโทรกลับมา

เฮ้อ ทำเป็นเหมือนแคร์ความรู้สึกฉัน เหมือนจะเป็นห่วง แต่ก็ไม่ใช่
เทอตัดพ้อตัวเอง บอกว่าจะเอาไฟล์เพลง กับหนังมาให้ฉัน แต่ก็ยังไม่ได้เอามาให้สักที
ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เราคุยกันมานานแล้ว เทอยังจำได้ เพียงแต่ว่าเทอไม่กล้ามาเจอหน้าฉัน
ก็เลยไม่ได้เอามาให้สักที
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรออกไป
เทอคงไม่หลบหน้าฉันขนาดนี้
ทุกวันนี้แม้แต่บทสนทนาระหว่างเราก็แค่สั้นๆ
ทำไมต้องเป็นแบบนี้
ฉันจะอยู่ยังไง ถ้าไม่มีเทอเป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา ฉันผิดมากเลยเหรอ ที่ไปบอกเทอเกี่ยวกับความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้เทอ ฉันผิดด้วยหรอ ที่มีความรู้สึกแบบนี้
ฉันร้องไห้อีกครั้ง ฉันคิดถึงเทอ
ปลายสายเทอบอกว่าลงไปสงขลาแล้ว
และเช้าวันนี้เทอก็จะลงทะเล
ตอนนี้เทอก็คงอย่ที่ทะเลเรียบร้อยแล้ว
เลยยิ่งคิดถึง
ตอนเทอกลับมาบ้านที่นี่ ถึงเราจะไม่ได้เจอกัน
ไม่ได้คุยกันเลย
แต่ฉันก็อุ่นใจว่าเทออยู่ตรงนั้น ไม่ไกลจากที่นี่
เศร้าจัง
พอได้คุนกะเทอ
ฉันก็จำต้องทำเป็นถามโน่นนี่ที่ดูเหมือนเป็นปรึกษาเรื่องที่เทอรู้ แต่ฉันไม่รู้
แต่จริงๆแล้ว ฉันไม่ได้มีธุระอะไรจะปรึกษาเลย
ฉันเพียงแค่อยากได้ยินเสียงเทอ
อยากคุยกับเทอเหมือนเดิมเท่านั้น
ก่อนวางสาย เทอบอกว่าถ้ามีอะไรก็ส่งข้อความไปทางเมล์หรือโทรไปที่ออฟฟิศก็ได้
เพราะมือถือจะไม่มีสัญญาณ

ฉันคิดถึงเทอมากมาย

และได้แต่อยู่กับตัวเอง
ภาวนาขอให้เราได้มาเจอกันโดยบังเอิญอีกครั้ง
และให้ฉันมองหน้าเทอได้เหมือนเดิมตลอดไป
ให้มิตรภาพระหว่างเรากลับมามีเหมือนเดิม
อย่าให้เราสองคนต้องมาเป็นแบบนี้เพียงแค่คำๆเดียวของฉันเลย
ฉันเสียใจ