I don’t know but
I think I maybe
Fallin’ for you
Dropping so quickly
Maybe I should
Keep this to myself
Waiting ’til I Know you better
I am trying Not to tell you
But I want to
I’m scared of what you’ll say
So I’m hiding what I’m feeling
But I’m tired of
Holding this inside my head
I’ve been spending all my time
Just thinking about you
As I’m standing here
And you hold my hand
Pull me towards youAnd we start to dance
All around us
I see nobody
Here in silence
It’s just you and me
ผู้ติดตาม
วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553
บันทึกถึงทะเล ภาค 3
7 กันยายน 2553
ฉันอยากบอกความในใจให้เทอ
แต่ฉันก็ไม่กล้า
เพื่อนเลยแนะนำให้ฉันส่งเพลงถึงเทอ
ฉันตกลงส่งเพลง "คำถาม" ของท๊อฟฟี่ ให้เทอทางเมล
ความหมายประมาณว่า
เมื่อฉันนั้นได้พบเธอ
ก็รู้สึกว่ารักแต่ให้ความหมายไม่ได้
ก็ไม่รู้ว่าจะนิยามอย่างไร มันเป็นข้อความลึกๆของใจ
จะถามว่าหน้าตาเป็นแบบไหน ฉันคิดว่าคงหน้าตาเหมือนเธอ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันยิ้มได้
ช่วยฉันให้มีความสุขไม่ว่าอยู่ไหน
เธอรู้ไหม ทุกครั้งที่ใกล้เธอเป็นแบบนี้
ไม่รู้เทอจะได้เข้าไปเช็คเมลตอนไหนเลย
และถ้าเทอเห็นเมลนั่น เทอจะเปิดฟังไหม
และถ้าเทอฟัง
เทอจะรู้ความในใจฉันไหม
และถ้าเทอรู้ เทอจะแสดงตอบกลับมาไหม
8 กันยายน 2553
เงียบ 1วัน
9 กันยายน 2553เวลา 20.42 น.
เทอโทรมาสั้นๆ
ไม่ทันได้รับ เพราะทำธุระอยู่
ฉันเลยกดโทรกลับไป
และเทอก็โทรกลับมา
เทอบอกว่าที่โทรมา ไม่ใช่อะไรหรอก แต่วันก่อนเห็นเราเคืองที่เทอถามว่าเหงา เลยแค่อยากโทรมาว่ายังเคืองอยู่หรือป่าว
เทอบอกว่าอยากรู้ว่าเราจะรับโทสับเทอหรือป่าวเท่านั้นเอง...
หมายความว่ายังไงน๊า
แล้วเทอก็บอกว่าให้เราชวนเทอคุย และคุย
เทอกินส้มไปด้วย
เทอบอกว่าจะเอาหนังมาให้ฉันดู
เรื่อง สามก๊ก
อืมมมม เราจะดูรู้เรื่องไหมเนี่ย
คืนนี้เราคุยสั้นๆ เพียง 1 ชม.
เทอเหนื่อย
เทอขอนอนก่อน
เซย์กูดไนท์
ฉันอยากบอกความในใจให้เทอ
แต่ฉันก็ไม่กล้า
เพื่อนเลยแนะนำให้ฉันส่งเพลงถึงเทอ
ฉันตกลงส่งเพลง "คำถาม" ของท๊อฟฟี่ ให้เทอทางเมล
ความหมายประมาณว่า
เมื่อฉันนั้นได้พบเธอ
ก็รู้สึกว่ารักแต่ให้ความหมายไม่ได้
ก็ไม่รู้ว่าจะนิยามอย่างไร มันเป็นข้อความลึกๆของใจ
จะถามว่าหน้าตาเป็นแบบไหน ฉันคิดว่าคงหน้าตาเหมือนเธอ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันยิ้มได้
ช่วยฉันให้มีความสุขไม่ว่าอยู่ไหน
เธอรู้ไหม ทุกครั้งที่ใกล้เธอเป็นแบบนี้
ไม่รู้เทอจะได้เข้าไปเช็คเมลตอนไหนเลย
และถ้าเทอเห็นเมลนั่น เทอจะเปิดฟังไหม
และถ้าเทอฟัง
เทอจะรู้ความในใจฉันไหม
และถ้าเทอรู้ เทอจะแสดงตอบกลับมาไหม
8 กันยายน 2553
เงียบ 1วัน
9 กันยายน 2553เวลา 20.42 น.
เทอโทรมาสั้นๆ
ไม่ทันได้รับ เพราะทำธุระอยู่
ฉันเลยกดโทรกลับไป
และเทอก็โทรกลับมา
เทอบอกว่าที่โทรมา ไม่ใช่อะไรหรอก แต่วันก่อนเห็นเราเคืองที่เทอถามว่าเหงา เลยแค่อยากโทรมาว่ายังเคืองอยู่หรือป่าว
เทอบอกว่าอยากรู้ว่าเราจะรับโทสับเทอหรือป่าวเท่านั้นเอง...
หมายความว่ายังไงน๊า
แล้วเทอก็บอกว่าให้เราชวนเทอคุย และคุย
เทอกินส้มไปด้วย
เทอบอกว่าจะเอาหนังมาให้ฉันดู
เรื่อง สามก๊ก
อืมมมม เราจะดูรู้เรื่องไหมเนี่ย
คืนนี้เราคุยสั้นๆ เพียง 1 ชม.
เทอเหนื่อย
เทอขอนอนก่อน
เซย์กูดไนท์
บันทึกถึงทะเล ภาค 2
5 กันยายน 2553 21.30 น. เทอโทรมาหาฉัน
ฉันยิ้ม แอบดีใจ
เทอโทมาถามว่าฉันรู้จักคอนโดชมตะวันแถวมน.หรือไม่
เทอเห็นประกาศในเน็ต
เทอสนใจซื้อ
อยากให้เทอได้ซื้อคอนโดไว้แถวนี้จัง
อยากเจอเทออีกเร็วๆ
กลั้นอารมณ์ข่มใจไม่ให้รักเทอมากไป
ทั้งที่ใจมันยังอยากไปพูดว่ารักอยู่
ไม่กล้าบอกว่า I want You
ได้แค่เพียงแอบรักเทอแบบนี้
แอบลุ้น ว่าเทอจะคิดตรงกันไหม
ฉันยิ้ม แอบดีใจ
เทอโทมาถามว่าฉันรู้จักคอนโดชมตะวันแถวมน.หรือไม่
เทอเห็นประกาศในเน็ต
เทอสนใจซื้อ
อยากให้เทอได้ซื้อคอนโดไว้แถวนี้จัง
อยากเจอเทออีกเร็วๆ
กลั้นอารมณ์ข่มใจไม่ให้รักเทอมากไป
ทั้งที่ใจมันยังอยากไปพูดว่ารักอยู่
ไม่กล้าบอกว่า I want You
ได้แค่เพียงแอบรักเทอแบบนี้
แอบลุ้น ว่าเทอจะคิดตรงกันไหม
บันทึกถึงทะเล
วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.32 น.
นั่งดื่มชาซีลอนในห้องพักเพียงลำพัง
ฟังดนตรีบรรเลง เพลง Head Over Heels In Love เพลง Soaring Larks และอื่นๆอีกหลายเพลงของ Silver frutes Lufthansa
คิดถึงเทอจับจิต
ตั้งใจไว้ว่าจะทำอะไรเพื่อตอบแทน หรือแทนคำขอบคุณที่เทอคอยให้คำแนะนำมาตลอด
นั่งถักผ้าพันคอด้วยอีซี่นิต ไหมพรมสีเขียว... ฉันคงต้องหาสีไหมพรมสีอื่นที่ดูเหมาะกับเทอมากกว่านี้
เทอจะชอบสีอะไรน๊า ถ้าหากเป็นผ้าพันคอ
และเทอจะชอบด้วยไหมน๊า
แต่ฉันอยากทำอะไรที่เป็นแฮนด์เมดให้เทอ
เทอคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ คอยให้คำแนะนำดีๆให้ฉันมาตลอด
พุดง่ายๆ ก็คือ เทอเป็น “เพื่อน” เป็น “พี่” ที่คอยช่วยคิดมาตลอด
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่เราได้รู้จักกัน
เดือนที่แล้วฉันฝันเห็นเทอ
ในฝัน...
เทอรักฉัน เทอแสดงออก
เทอสวมกอดจากด้านหลังฉันอย่างนุ่มนวล (พิมพ์ถึงตรงนี้ ฉันถึงกับน้ำตาไหล เพราะมันเป็นแค่ฝัน)
เทอกอดฉันฉันยิ้ม เทอยิ้ม เรายิ้มให้กัน
ฉันอบอุ่นหัวใจจนบอกไม่ถูก
ฉันกำลังแอบรักเทออย่างหมดหัวใจ
เทอจะรุ้บ้างไหมหนอ
แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝัน
ฉันต้องพยายามมากมาย
ที่จะไม่ให้ตัวเองกดโทรหาเทอ
ฉันไม่อยากโทรไปรบกวนเทอ
จำต้องลบโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์ของเทอทิ้งไป
เพราะคิดว่า ถ้าไม่ได้คุยกับเทอ ฉันคงห้ามใจไม่ให้ไปรักเทอได้
ซึ่งหลังจากนั้น ก็เศร้าหลายวัน ร้องไห้ คิดถึง ฝัน... ฉันฝันอยากเป็นคนนั้นของเทอ
สองวันถัดมา เทอก็โทรมา ว้า.. ความตั้งใจทั้งหมดที่จะไม่ติดต่อเทอก็หมด
ฉันดีใจที่ได้คุยกับเทอ
โลกทั้งใบเหมือนเป็นของเราสองคน
เทอเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยน ทัศนคติดี มองการณ์ไกล และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ฉันเห็นและสัมผัสได้
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าชอบเทอก็เป็นช่วงหน้าร้อนของปี 2010
หลังจากที่เราเจอกันและคุยกันอย่างถูกคอกันตลอดตั้งแต่ หน้าหนาว ปี 2008
(ตอนนี้ ฉันอยากกดโทรหาเทอมาก
แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเทอ และกลัวเทอจะรู้ความในใจ ฉันอยากคุยกับเทอ ก็จำต้องหาเรื่องที่ควรโทรคุยก่อน ถึงจะกล้าโทร...น้ำตาไหลอีกละ)
เวลา 17.50 น. วันพฤหัสที่19 สิงหาคม 2553 เรานัดเจอกันที่หอสมุด สถานที่นัดพบของเราสองคน
วันนั้นเทอใส่เสื้อสีขาว
ฉันใส่เสื้อสีโอรส
เทอตัดผมทรงใหม่
ผิวเทอขาวกว่าฉันเสียอีก คงเป็นเพราะเทอไม่ได้ออกมาดดนแดดเหมือนฉัน
เราเจอกันหน้าสำนักหอสมุด พร้อมโนตบุคคนละเครื่อง
ฉันเอาโนตบุคมา เพราะเทอเคยรับปากฉันไว้ว่าจะช่วยดูโนตบุคฉันที่กำลังมีปัญหาอยู่
เราก้าวเข้าไปในหอสมุดพร้อมๆกัน
(ฉันปลื้ม ฉันเพ้อถึงเทอตลอด)
เราเลือกที่นั่งที่ชั้น 2
และที่นี่ละ ที่เราได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด
เทอเป็นคนเสียบปลั๊กสายแบตโนตบุคให้ฉัน
เพราะเทอเห็นว่าไม่สมควรที่ผู้หญิงจะต้องก้มลงเสียบปลั๊กไฟ
เทอช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงๆ
ฉันยังไม่เคยเจอใครทำดี และคิดดีกับผุ้หญิงแบบนี้มาก่อน
ตอนแรกเรานั่งตรงกันข้ามกัน
สักพัก พอเทอหันโนตบุคของฉันไปดู เพื่อตรวจเช็คปัญหา
และเทอก็ได้เอาหนังมาให้ฉันดูหลายเรื่องเลยทีเดียว
เทอลองเปิดในเครื่องฉัน
และให้ฉันดู
ฉันจึงต้องเดินไปนั่งข้างๆเทอ
(ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ต้องคอยสะกดกลั้นเอาไว้ กลัวเทอรู้ความใน)
เทอเปิดหนัง
และพูด เล่าเรื่องย่อๆของหนังแต่ละเรื่องให้ฉันฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจกับทุกรายละเอียด
เทออยากให้ฉันได้ยินเสียงด้วย
จึงเอาหูฟังที่เทอเตรียมมาด้วยเสียบกับโนตบุค
แล้ววางลงบนโต๊ะ ฉันหยิบมาใส่หูเอง (หากเป็นเทอ ที่เป็นคนใส่หุฟังที่หูฉันคงดีมากเลย แต่ตอนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิด)
และแล้วสายฝนก็ลง
ตกลงมาหนักมาก
บรรยากาศช่างดีเหลือเกิน เมื่อมีเทออยู่ข้างกายฉัน
เทอเปิดหนัง และเล่าเรื่องย่อๆของหนังที่เทอโปรด เช่น เรื่อง The Roads ให้ฉันฟังตลอด
มือของเราเกือบถูกกันตลอด
เพราะเจ้าเม้าส์นี่ละ
เทอคอยรอจะจับเม้าส์ต่อจากฉัน
เมื่อมือเราอยู่ใกล้ๆกัน เหมือนไฟจะดูด รู้สึกขนลุกซู่
แต่ก็พยายามห้ามใจ ไม่ให้คิดไปอื่นไกล เราพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกัน
ฉันหันมองหน้าเทอ ในระยะ 10 ซม. ใกล้เหลือเกิน
ฉันมองหนวดเคราที่ผ่านการโกนมาอย่างดี
มองผิวหน้าเทอ มองริมฝีปากเทอ เวลาเทอพูด
เทอใส่แว่น ฉันจึงไม่เห็นแววตาของเทอ ข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ไหม
เกิดคำถามขึ้นมาตลอด แต่ไม่เคยกล้าถาม
ฉันหวั่นไหว (แต่ก้ต้องห้ามใจอีกละ)
เทอจะรู้สึกเหมือนฉันบ้างไหม
หลังจากนั้นเทอก็เอาข้อมูลโปรแกรม Advance Excel มาลงในเครื่องฉัน
เทอจะสอนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆให้ฉัน
แต่ว่าข้อมูลมันเยอะมาก
กว่าจะแตกไฟล์ได้ ต้องใช้เวลานานพอสมควร
และฉันก็หิวข้าวมากด้วย
เราจึงมีเวลานั่งใกล้กันเพียงแค่ 2 ชม.พอดี
เราไปดินเนอร์ต่อที่ร้านครัวฉลวย(หน้ามอ)
เราเลือกที่นั่งเดิม ที่เราเคยนั่ง
แต่วันนี้ฉันต้องหลบสายตาเทอมากขึ้น
ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองแสดงความรู้สึกออกทางสายตา
เรานั่งสักพัก
ก็มีน้องGee หลานของเทอมาสมทบด้วยอีกคน
เรานั่งกินข้าวด้วยกันสามคน
บอกตัวเองไม่ให้คิดเรื่องหวั่นไหว
22.00 น. เราแยกย้ายกัน
ฉันขอซ้อนมอไซค์น้อง Gee กลับหอ เพราะกลับทางเดียวกัน
ส่วนเทอ คงไปหาห้องพักในเมืองตามเคย เหมือนทุกครั้ง
กลับมาถึงหอ
คิดถึงเทอมาก
ตัดสินใจโทรหาเทอ
และตัดสินใจลบเบอร์เทอร์ทิ้ง
และร้องไห้ในที่สุด
ฉันเป็นอะไรไป
จะเป็นไปได้ไหม
ให้เทอกับฉัน “รักกัน”
ในสักวัน
ฉันจะรอ
แม้จะไม่เห็นความหวังเลย
จนตอนนี้เวลา 22.40 น. คิดถึงเทอ แต่เทอคงหลับแล้ว
เทอไม่ได้โทรมาหาฉัน
ฉันอยากโทรหาเทอ
แต่แล้วก็ไม่กล้า
ให้เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับฉันเพียงฝ่ายเดียว
ให้เทออย่าได้รับรู้เลยเชียว
เพราะถ้าเทอรู้เรื่องเข้า
ฉันคงไม่กล้าเจอหน้าเทออีกต่อไปเลยก็ได้
และฉันกลัวจะเสียมิตรดีๆอย่างเทอ
แต่แล้ว ก้ออดใจไม่ไหว
โทรหาเทอจนได้
เวลา 22.42 นง ฉันตัดสินใจโทรหาเทอ
และเทอก้โทรกลับมาหาฉัน
เราคุยกันนานชั่วโมงกว่า
24.00 น. เทอขอนอน เพราะต้องตื่นเช้าทำงาน
เราคุยกัน ฉันหัวเราะ เทอหัวเราะ
เทอแนะนำ ฉันปรึกษา เราต่างมีเรื่องคุยมากมาย
วันก่อนเทอบอกว่าอยากเลี้ยงกวาง
วันนี้เทอบอกว่าอยากทำนา
เทอถามฉันว่าจะทำนาไหวไหม
ฉันถามว่าทำไมถึงเป้นทำนา
เทอบอกว่าเทอจะไปทำนา
(พูดถึงตรงนี้ ก็อดคิดไม่ได้ ว่าเทอจะออกปากชวนฉันไปทำนาด้วยไหมน๊า)
เทอบอกว่าเทอมีความสุขที่ได้เดินบนคันนา
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรวงข้าว
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรางน้ำในนา
เทอมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางทุ่งนาข้าว
มันช่างตรงกับใจฉันเหลือเกิน
เทอเป็นคนละเอียดอ่อน
เทอรักอิสระ
เทอ
แล้วก็เทอ อยู่รอบๆฉันเต็มไปหมด
นั่งดื่มชาซีลอนในห้องพักเพียงลำพัง
ฟังดนตรีบรรเลง เพลง Head Over Heels In Love เพลง Soaring Larks และอื่นๆอีกหลายเพลงของ Silver frutes Lufthansa
คิดถึงเทอจับจิต
ตั้งใจไว้ว่าจะทำอะไรเพื่อตอบแทน หรือแทนคำขอบคุณที่เทอคอยให้คำแนะนำมาตลอด
นั่งถักผ้าพันคอด้วยอีซี่นิต ไหมพรมสีเขียว... ฉันคงต้องหาสีไหมพรมสีอื่นที่ดูเหมาะกับเทอมากกว่านี้
เทอจะชอบสีอะไรน๊า ถ้าหากเป็นผ้าพันคอ
และเทอจะชอบด้วยไหมน๊า
แต่ฉันอยากทำอะไรที่เป็นแฮนด์เมดให้เทอ
เทอคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ คอยให้คำแนะนำดีๆให้ฉันมาตลอด
พุดง่ายๆ ก็คือ เทอเป็น “เพื่อน” เป็น “พี่” ที่คอยช่วยคิดมาตลอด
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่เราได้รู้จักกัน
เดือนที่แล้วฉันฝันเห็นเทอ
ในฝัน...
เทอรักฉัน เทอแสดงออก
เทอสวมกอดจากด้านหลังฉันอย่างนุ่มนวล (พิมพ์ถึงตรงนี้ ฉันถึงกับน้ำตาไหล เพราะมันเป็นแค่ฝัน)
เทอกอดฉันฉันยิ้ม เทอยิ้ม เรายิ้มให้กัน
ฉันอบอุ่นหัวใจจนบอกไม่ถูก
ฉันกำลังแอบรักเทออย่างหมดหัวใจ
เทอจะรุ้บ้างไหมหนอ
แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝัน
ฉันต้องพยายามมากมาย
ที่จะไม่ให้ตัวเองกดโทรหาเทอ
ฉันไม่อยากโทรไปรบกวนเทอ
จำต้องลบโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์ของเทอทิ้งไป
เพราะคิดว่า ถ้าไม่ได้คุยกับเทอ ฉันคงห้ามใจไม่ให้ไปรักเทอได้
ซึ่งหลังจากนั้น ก็เศร้าหลายวัน ร้องไห้ คิดถึง ฝัน... ฉันฝันอยากเป็นคนนั้นของเทอ
สองวันถัดมา เทอก็โทรมา ว้า.. ความตั้งใจทั้งหมดที่จะไม่ติดต่อเทอก็หมด
ฉันดีใจที่ได้คุยกับเทอ
โลกทั้งใบเหมือนเป็นของเราสองคน
เทอเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยน ทัศนคติดี มองการณ์ไกล และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ฉันเห็นและสัมผัสได้
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าชอบเทอก็เป็นช่วงหน้าร้อนของปี 2010
หลังจากที่เราเจอกันและคุยกันอย่างถูกคอกันตลอดตั้งแต่ หน้าหนาว ปี 2008
(ตอนนี้ ฉันอยากกดโทรหาเทอมาก
แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเทอ และกลัวเทอจะรู้ความในใจ ฉันอยากคุยกับเทอ ก็จำต้องหาเรื่องที่ควรโทรคุยก่อน ถึงจะกล้าโทร...น้ำตาไหลอีกละ)
เวลา 17.50 น. วันพฤหัสที่19 สิงหาคม 2553 เรานัดเจอกันที่หอสมุด สถานที่นัดพบของเราสองคน
วันนั้นเทอใส่เสื้อสีขาว
ฉันใส่เสื้อสีโอรส
เทอตัดผมทรงใหม่
ผิวเทอขาวกว่าฉันเสียอีก คงเป็นเพราะเทอไม่ได้ออกมาดดนแดดเหมือนฉัน
เราเจอกันหน้าสำนักหอสมุด พร้อมโนตบุคคนละเครื่อง
ฉันเอาโนตบุคมา เพราะเทอเคยรับปากฉันไว้ว่าจะช่วยดูโนตบุคฉันที่กำลังมีปัญหาอยู่
เราก้าวเข้าไปในหอสมุดพร้อมๆกัน
(ฉันปลื้ม ฉันเพ้อถึงเทอตลอด)
เราเลือกที่นั่งที่ชั้น 2
และที่นี่ละ ที่เราได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด
เทอเป็นคนเสียบปลั๊กสายแบตโนตบุคให้ฉัน
เพราะเทอเห็นว่าไม่สมควรที่ผู้หญิงจะต้องก้มลงเสียบปลั๊กไฟ
เทอช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงๆ
ฉันยังไม่เคยเจอใครทำดี และคิดดีกับผุ้หญิงแบบนี้มาก่อน
ตอนแรกเรานั่งตรงกันข้ามกัน
สักพัก พอเทอหันโนตบุคของฉันไปดู เพื่อตรวจเช็คปัญหา
และเทอก็ได้เอาหนังมาให้ฉันดูหลายเรื่องเลยทีเดียว
เทอลองเปิดในเครื่องฉัน
และให้ฉันดู
ฉันจึงต้องเดินไปนั่งข้างๆเทอ
(ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ต้องคอยสะกดกลั้นเอาไว้ กลัวเทอรู้ความใน)
เทอเปิดหนัง
และพูด เล่าเรื่องย่อๆของหนังแต่ละเรื่องให้ฉันฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจกับทุกรายละเอียด
เทออยากให้ฉันได้ยินเสียงด้วย
จึงเอาหูฟังที่เทอเตรียมมาด้วยเสียบกับโนตบุค
แล้ววางลงบนโต๊ะ ฉันหยิบมาใส่หูเอง (หากเป็นเทอ ที่เป็นคนใส่หุฟังที่หูฉันคงดีมากเลย แต่ตอนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิด)
และแล้วสายฝนก็ลง
ตกลงมาหนักมาก
บรรยากาศช่างดีเหลือเกิน เมื่อมีเทออยู่ข้างกายฉัน
เทอเปิดหนัง และเล่าเรื่องย่อๆของหนังที่เทอโปรด เช่น เรื่อง The Roads ให้ฉันฟังตลอด
มือของเราเกือบถูกกันตลอด
เพราะเจ้าเม้าส์นี่ละ
เทอคอยรอจะจับเม้าส์ต่อจากฉัน
เมื่อมือเราอยู่ใกล้ๆกัน เหมือนไฟจะดูด รู้สึกขนลุกซู่
แต่ก็พยายามห้ามใจ ไม่ให้คิดไปอื่นไกล เราพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกัน
ฉันหันมองหน้าเทอ ในระยะ 10 ซม. ใกล้เหลือเกิน
ฉันมองหนวดเคราที่ผ่านการโกนมาอย่างดี
มองผิวหน้าเทอ มองริมฝีปากเทอ เวลาเทอพูด
เทอใส่แว่น ฉันจึงไม่เห็นแววตาของเทอ ข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ไหม
เกิดคำถามขึ้นมาตลอด แต่ไม่เคยกล้าถาม
ฉันหวั่นไหว (แต่ก้ต้องห้ามใจอีกละ)
เทอจะรู้สึกเหมือนฉันบ้างไหม
หลังจากนั้นเทอก็เอาข้อมูลโปรแกรม Advance Excel มาลงในเครื่องฉัน
เทอจะสอนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆให้ฉัน
แต่ว่าข้อมูลมันเยอะมาก
กว่าจะแตกไฟล์ได้ ต้องใช้เวลานานพอสมควร
และฉันก็หิวข้าวมากด้วย
เราจึงมีเวลานั่งใกล้กันเพียงแค่ 2 ชม.พอดี
เราไปดินเนอร์ต่อที่ร้านครัวฉลวย(หน้ามอ)
เราเลือกที่นั่งเดิม ที่เราเคยนั่ง
แต่วันนี้ฉันต้องหลบสายตาเทอมากขึ้น
ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองแสดงความรู้สึกออกทางสายตา
เรานั่งสักพัก
ก็มีน้องGee หลานของเทอมาสมทบด้วยอีกคน
เรานั่งกินข้าวด้วยกันสามคน
บอกตัวเองไม่ให้คิดเรื่องหวั่นไหว
22.00 น. เราแยกย้ายกัน
ฉันขอซ้อนมอไซค์น้อง Gee กลับหอ เพราะกลับทางเดียวกัน
ส่วนเทอ คงไปหาห้องพักในเมืองตามเคย เหมือนทุกครั้ง
กลับมาถึงหอ
คิดถึงเทอมาก
ตัดสินใจโทรหาเทอ
และตัดสินใจลบเบอร์เทอร์ทิ้ง
และร้องไห้ในที่สุด
ฉันเป็นอะไรไป
จะเป็นไปได้ไหม
ให้เทอกับฉัน “รักกัน”
ในสักวัน
ฉันจะรอ
แม้จะไม่เห็นความหวังเลย
จนตอนนี้เวลา 22.40 น. คิดถึงเทอ แต่เทอคงหลับแล้ว
เทอไม่ได้โทรมาหาฉัน
ฉันอยากโทรหาเทอ
แต่แล้วก็ไม่กล้า
ให้เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับฉันเพียงฝ่ายเดียว
ให้เทออย่าได้รับรู้เลยเชียว
เพราะถ้าเทอรู้เรื่องเข้า
ฉันคงไม่กล้าเจอหน้าเทออีกต่อไปเลยก็ได้
และฉันกลัวจะเสียมิตรดีๆอย่างเทอ
แต่แล้ว ก้ออดใจไม่ไหว
โทรหาเทอจนได้
เวลา 22.42 นง ฉันตัดสินใจโทรหาเทอ
และเทอก้โทรกลับมาหาฉัน
เราคุยกันนานชั่วโมงกว่า
24.00 น. เทอขอนอน เพราะต้องตื่นเช้าทำงาน
เราคุยกัน ฉันหัวเราะ เทอหัวเราะ
เทอแนะนำ ฉันปรึกษา เราต่างมีเรื่องคุยมากมาย
วันก่อนเทอบอกว่าอยากเลี้ยงกวาง
วันนี้เทอบอกว่าอยากทำนา
เทอถามฉันว่าจะทำนาไหวไหม
ฉันถามว่าทำไมถึงเป้นทำนา
เทอบอกว่าเทอจะไปทำนา
(พูดถึงตรงนี้ ก็อดคิดไม่ได้ ว่าเทอจะออกปากชวนฉันไปทำนาด้วยไหมน๊า)
เทอบอกว่าเทอมีความสุขที่ได้เดินบนคันนา
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรวงข้าว
เทอมีความสุขที่ได้เห็นรางน้ำในนา
เทอมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางทุ่งนาข้าว
มันช่างตรงกับใจฉันเหลือเกิน
เทอเป็นคนละเอียดอ่อน
เทอรักอิสระ
เทอ
แล้วก็เทอ อยู่รอบๆฉันเต็มไปหมด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)