ผู้ติดตาม

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

ความสุข ความสุข

มีความสุขที่สุดเลย
สุดๆไปเลย
ได้แค่นี้ก็สุขจนล้น
ไม่ต้องเป็นมากกว่านี้
ต่างคนต่างเบรคบ้าง

รอให้เทอพร้อม
ฉันก็พร้อมไปด้วยกัน

แต่ตอนนี้
ได้แค่นี้ก็สุข มากจนถึงมากที่สุดแล้ว

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

กินแค่พอให้หายหิว

ถ้าเราหาความสุขแบบถาวรไม่ได้
ก็จงพอใจกับความสุขเพียงเล็กน้อย ที่เราหามาได้
ความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เมื่อมีโอกาสก็ต้องรีบคว้า
ถึงจะเป็นเพียงความสุขเพียงชั่วข้ามคืน
นานๆจะมีครั้ง รีบคว้าไว้ และดื่มด่ำมีความสุขกับมันให้เต็มที่
ก่อนที่จะเหือดแห้งหายไป

มันก็คงเป็นเหมือนกับ
การกินข้าว
ในเมื่อเรากินให้อิ่มไม่ได้
ก็กินแค่ให้พอหายหิว
เท่านั้นพอ

ฟังดูเหมือนอดๆ อยากๆ จังเลย

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

กิ๊ก

เมื่อคืนเทอบอกว่าเราควรคุยโทสับเพียงวันละ 1 ครั้ง
เพื่อที่ว่าเราจะได้คุยกันนานวันขึ้น

ความจิงก็ไม่ได้อยากคุยกะเทอทุกวันหรอก
แต่เมื่อเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้ฉันนึกอยากจะคุยกะเทอ
พอกลับจากร้าน "แสงจันทร์" กะสปาย 6ขวด ส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพียง6เปอร์เซ็นต์
ก็อยากคุยกะเทอ
อยากได้ยินเสียงแค่นี้คงไม่เท่าไหร่

เราคุยกันชั่วโมงกว่า
เทอบอกว่าเทอ "นับถือ"ฉัน และ"ให้เกียรติ" ฉัน
นับถือแบบไหนฟระ แบบว่าเป็นพี่คนนึงอะหรอ ถามต่อ เทอก็ไม่ยอมบอกแล้ว
แต่มันคงจิง เพราะตอนเทอมาหาฉัน ตอนเราเจอกัน เทอให้เกียรติฉันมาก
บางเวลาฉันยังอดนึกว่าเทอเป็นหลานคนนึงไม่ได้เลย
บางมุม เทอก็เปนเหมือนน้องหรือหลานคนนึง
แต่บางเวลาความรู้สึกมันมากกว่านั้น
แบ่งแยกไม่ถูก
สับสนเล็กน้อย
อยากจะยุติเรื่องราวทั้งหมดไว้เพียงเท่านี้
แต่ก็ยังอยากมีเทอมาเดินเคียงข้าง
แต่ถ้าได้มาเดินเคียงข้างจิงๆ ฉันจะมีความสุขจริงหรอ
เขาคนที่จะมาเดินข้างฉัน คือ เทอใช่หรือป่าว
หรือว่าเป็นเพราะ เหงา เลยทำให้ฉันอยากคุยกับเทอ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ที่ฉันยังไม่ตัดใจเลิกกะพี่วิ ฉันก็ยังไม่สรรหาคนมาคุยแบบนี้เลย
ตอนนี้ตัดใจ ไม่รอพี่วิอีกต่อไป
เลยเหงา
ก็เลยหาคนคุย
เจอแจคพอตพอดีด้วย
เจอคนมีเสน่ห์ คารมดีอย่างเทอเข้าด้วย
ฉันเลยยิ่งอยากคุยมากไปอีก
ยิ่งเทอเป็นคนตรงไปตรงมา ดูเป็นคนเจ้าชู้ กินเหล้า ดูดบุหรี่ ฉันก็ยิ่งมองว่าเทอมีเสน่ เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว
แต่ก็นั่นละ
มันก็มีข้อเสียมากมาย

ตอนนี้เรื่องราวระหว่างเทอกะฉันมันได้เดินทางต่อไปเรื่อยๆ
ความรู้สึกที่ดีๆที่เรามีกันก็เริ่มมากขึ้น
เมื่อคืนเทอบอกว่ารู้สึกดีและสบายใจเมื่อได้คุยและอยู่กะฉัน


...
ได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว
ขอบคุณน้องเหยินมากมายที่มาเป็นกำลังใจและที่ปรึกษาชั่วคราวในบางเวลา
และไม่รุว่าเทอจะอยู่กะฉันนานแค่ไหน
แต่นั่นคงไม่สำคัญแล้ว
เพราะว่าการที่ฉันได้มีเทอไว้แบบนี้ อยู่ตรงนี้ แค่นี้ฉันก็มีความสุขมากแล้ว
มีความสุขจนกลัว
กลัวว่าสักวันนึงเทอจะไม่อยากอยู่ตรงนี้
วันนั้นฉันคงเสียใจมากกว่าตอนเสียพี่วิไป
วันนี้จำเป็นต้องเว้นที่ว่างระหว่างเราไว้สักนิดก่อน
เพื่อกันไม่ให้เราสองคนเบื่อกันและกัน
เพราะการที่อีกฝ่ายนึงรุกเข้าไปมากเกินไป จะทำให้อีกฝ่ายนึงหนี
มันเป็นเรื่องจริงที่หนีไม่ได้เลยจิงๆ
แล้วฉันจะห้ามความรู้สึกตัวเองไหวไหม
กับการที่ต้องเว้นช่องว่าง ให้เทอกะฉันเป็นเพียงแค่คนรู้จักกัน
และเทอก็ไม่ได้แคร์กันเลย

ตอนนี้สับสน 2ทาง
1. เลิกความคิดที่จะชอบเทอแล้วเป็นแค่เพื่อนรุ่นน้อง (ข้อนี้ทำยากมาก เพราะถึงตอนนี้แล้ว ความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว แค่พยายามไม่คุยกับเทอ2วัน น้ำตาก็ไหลแล้ว ) หรือว่าฉันยังไม่พยายามเต็มที่กับข้อนี้
2. ลองเสี่ยง เล่นของสูงก็ต้องลองเสี่ยง เผื่อว่าสักวันนึงเทอจะหันมารู้สึกแบบเดียวกัน
แม้ว่าจะเจออุปสรคคมากมาย เรื่องที่เทออาจมีคนอื่น (ถึงเทอจะบอกว่าไม่ใช่แฟน แต่เทอก็ยอมรับว่ามีคนอื่นด้วย สิ่งที่บ่งบอกว่าเทอมีคนอื่นด้วยจิงก็คือลอยเล็บผู้หญิงข่วนตรงหลังเทอ) เรื่องแบบนี้ฉันไม่แน่ใจว่าจะทนไหวหรือป่าว รู้ว่าเทอมีคนอื่น แต่ในเมื่อเทอบอกว่าไม่ใช่แฟน นั่นก็คือเป็นแค่กิ๊ก
แล้วฉันก็คงเป็นแค่กิ๊กเทอด้วยเช่นกัน

ฉันคนที่ไม่ชอบคำว่า "กิ๊ก " เพราะสำหรับฉันแล้วคำว่ากิ๊ก บ่งบอกถึงการไม่เคารพตัวเอง

หรือว่าตอนนี้ฉันเลิกเคารพ และนับถือตัวเองไปแล้ว
ฉันไม่มีค่าบ้างเลยแล้วใช่ไหม


สับสน
...
เรื่องหัวใจ มันยากชะมัด
แก้ไม่ตก
แอลกอฮอล์อยู่ไหน มาหาฉันที



วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

แต่ไม่เป็นไร

จนถึงวันนี้แล้ว
วันเวลาผ่านพ้นมาอย่างรวดเร็ว

ฉันรุ้จักเทอเพียงแค่ไม่ถึงสองเดือน
แต่ก้อแอบชอบเทอมากมาย
เทอรู้ทุกอย่าง
แต่เทอก็ยังนั่งยัน ยืนยันว่าจะคุยกะฉันในแบบเพื่อนไปก่อน

ฉันรู้จากปากเทอตลอดว่า เทอจะไม่คบใครอย่างจิงจัง เทอยังไม่อยากมีปัญหากะใคร
เมื่อวานฉันเจอเทอ เลยได้เห็นความจิง
ฉันเห็นเงาคนอื่นในตัวเทอ
เทอมาหาฉันเพราะอะไร
หรือว่าฉันจะเป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงของเทอ ที่เทอบอกว่า จะ "ไม่จิงใจ"

แต่ว่าความรู้สึกดีๆ ที่เรามีกัน ไม่อาจห้ามใจให้ฉันเลิกชอบเทอได้
ก้ได้แต่หวังว่าฉันจะเป็นหนึ่งคนสำคัญของเทอ

เทอไม่จิงใจ เทออาจมีคนอื่นหลายคน
แต่ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เพราะว่า"รัก"จิงๆ รักคือการให้ ฉันให้เทอ
ระหว่างที่รุ้สึกดีกะเทอมากๆ
ก็ได้เผื่อใจไว้บ้าง
แต่คงต้านความรุ้สึกดีๆเหล่านั้นไม่ได้
อยากเจอเทอทุกวัน
อยากจะเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่
อยากให้เทอมีแค่ฉัน
อยากให้เราคบกัน
...
ฉันคิดถึงเทอ ไม่อาจบอกกับใครเขา อยู่กับใจของตัวเรา อยู่ในความคำนึงผุ้เดียว

เบรกๆๆๆ
เบรกความรู้สึกหน่อย ก่อนที่เทอจะหันหน้าหนี
อย่าไปแสดงงความรู้สึกมากเกิน เดี๋ยวเทอจะเผ่นเสียก่อน
ไม่อยากตามเทอมากเกิน
จะกลายเป็นความรำคาญ
แล้วเรื่องราวระหว่างเราจะน่าเบื่อ

ระยะห่าง
ปล่อยให้มีระยะห่างแบบนี้ไป
ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านความรู้สึก
แต่ว่าดูเหมือนจะไม่ได้ผล
เราสองคนเริ่มย่นระยะห่างให้เหลือเพียงน้อยนิด
ตอนนี้ก็เหลือเพียงระยะห่างเส้นบางๆกั้นระหว่างเรา
ให้ต่างคนต่างมีมุมในส่วนของตัวเอง
เมื่อวานที่เราเจอกัน
เทอดูสดใสขึ้น หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันสองวัน
อาทิตย์นี้ฉันดูมีกำลังใจขึ้นเยอะ
อยากทำอะไรต่ออะไร
ทำข้อสอบภาค ก ได้อย่างมีสมาธิ เพราะว่ามีเทอเปงกะลังใจ
ถึงแม้จะยังไม่ได้คำตอบ ว่าเทอเปนใคร
แต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกดีๆเหล่านี้ จะชั่วคราวได้แค่ไหน
สับสนมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

มงกุฏดอกไม้

มงกุฎดอกไม้ ที่เธอให้ฉัน ทำให้วันที่ธรรมดา ของคนที่ธรรมดา เหมือนกลายเป็นเจ้าหญิง ทุกสิ่งช่างสวยงาม ทุกสิ่งช่างแสนดี ตั้งแต่วันที่ฉันมีเธอ เธอทำได้เจอความรักที่แท้จริง จะมีเสียงจากใจฉัน ส่งผ่านฝัน ในวันที่เราต้องไกลห่าง อย่าอ้างว้าง เพราะใจเราไม่เคยห่างกัน ตั้งแต่วันที่เธอเดินเข้ามา จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนรู้ใจ เธอเปลี่ยนแปลงชีวิตฉันใหม่ จากไม่เคยเป็นคนพิเศษของใคร

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

บำบัดยาเสพติด

เหนื่อยเหลือเกิน
กับอาการเหงาๆ
หลายวันนี้โทไป "เทอ" ไม่รับสายเลย
อยากแค่ได้ยินเสียงก็ยังดี
ก่อนหน้านี้ฉันพยายามไม่ให้เทอเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของฉัน
แต่ฉันก็ทำได้แค่อาทิตย์เดียว
พอเทอโทมา ความเข้มแข็งทั้งหมด ก็หายไปไหนหมด
จนถึงวันนี้ ความเข้มแข็งก็ยังไม่มี
และยิ่งอ่อนแอลงทุกวันๆๆ
โทไปหลายสิบสาย หลายเวลา
แต่เทอก็ไม่รับสาย
เมื่อคืนโทไป เจอแต่"รอสาย"
และเทอก็ไม่รับสายเลย
ฉันมันเหงาอะไรมากมาย
แค่อยากมีใครสักคนที่ถูกใจอย่างเทอเป็นเพื่อนคุย
แต่สุดท้ายแล้ว
ก็ไม่เป็นดังหวัง
เหงา เพราะว่าคิดว่าเทออยู่ใกล้แค่นี้เอง
ทำไมเราไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกัน
ทำไมเราไม่ได้ไปวิ่งด้วยกัน
เหมือนวันนั้น

สองวันที่จะถึงนี้
ฉันลาพัก
คงจะได้พักจิตใจบ้างนะ
ไม่รุจะไปไหนดี

เมื่อตอน 2ทุ่มฉันโทไป
อยากจะดูหนังกับเทอสักเรื่อง
แต่แล้วเทอก็ไม่รับสาย

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เทอบอกจะมีดูหนังที่หอฉันตั้งหลายครั้ง
แต่ฉันไม่ยอมให้เทอมา
เพราะ "กลัว" อะไรหลายๆอย่าง

อัพเดตๆๆ ตอนนี้ 4 ทุ่มครึ่ง เทอโทมาแล้ว
โทมาบอกว่าจะมาดูหนังด้วย
เหอๆๆ
มาสักดึกเลย
ยิ่ง "กลัว"
แต่ไหนๆ ก็เหงามากมายขนาดนี้แล้ว
มีเพื่อนดูหนังสักคนก็คงจะดี
คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกมั้ง


วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ขี้เกียจ

ชีวิตจะไปทางไหนดี
ขี้เกียจทำงาน
ขี้เกียจสอนพิเศษ
ขี้เกียจกลับบ้าน
ขี้เกียจพูดคุยกะผู้คน
ขี้เกียจให้ความหวังลมๆแล้งๆกะใจตัวเอง
ขี้เกียจคิดถึงใครบางคน
ขี้เกียจนึกถึงขี้หน้าใครบางคน
ขี้เกียจ"เจ็บ"
ขี้เกียจให้น้ำตาไหล
ขี้เกียจกินสปาย
ขี้เกียจกินเหล้า
ขี้เกียจเหงา
ขี้เกียจกิน
ขี้เกียจนอน
ขี้เกียจหายใจ
...
ขี้เกียจเสียดายผู้ชายเห็นแก่ตัวบางคน
ขี้เกียจแค้นผู้ชายเจ้าชู้
ขี้เกียจฟังเพลง"เหงา"ของ ปูพงษ์สิทธิ์ ขี้เกียจฟังเพลง "ได้อย่างเสียอย่าง" ของอัสนีย์ วสันต์
(แต่ว่าทั้งหมดที่ฉันว่ามา เป็นอะไรที่ฉันทำได้ทุกวี่วัน)
เหนื่อย ไม่ไหวจะเครียร์แล้ว..ใจ กรุ

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

เวลาตายของ"คนแก่"

ในกระจกมัวๆ มี"คนแก่"คนหนึ่งคนที่พึ่ง ลึกซึ้งถึงความเดียวดาย
นาทีที่กาลเวลา บอกว่าเธอมีค่าเพียงใดคือนาทีที่สาย
เกินหวังให้ใครกลับมา
เหมือนคนตื่นจากฝัน ตามทวงวันและคืนดีๆทั้งที่ก่อน หน้านี้ไม่เคยรักษา
เวลาที่คิดว่าพอ กลับไม่พอให้พูดคำลา
ทำได้เพียงแค่นึกรู้สึกโหยหามัน
ชีวิตนี้ ถ้าไม่มีเธอก้าวเข้ามาฉันคงเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น

แปลกที่คนไม่รู้ มีเพียงผู้เดียวคือฉันอยากกอดเธอแน่นๆนานๆในวันที่เสียเธอไป
เชื่อว่าที่ตรงนั้น เธอยังพร้อม

จะฉันอยู่แล้วที่สุด ก็รู้เธอรอไม่ไหวเจอเพียงแค่รอยน้ำตา หยดบนนาฬิกาที่ตายให้ฉันได้กอดมันไว้ และบอกว่ารักเธอ

เวลาทุกเสี้ยวนาที คนๆนี้จะเก็บมันไว้จะจำจนวันสุดท้าย ว่าเคยได้กอดเธอ

อารมณ์เหงาๆ

ความเหงามันโหดร้าย
เกินจะทน
เมื่อคืนเหงา...
พอเหงาทีไร ก็นึกถึง RED ทุกที
แอลกอฮอล์แค่ 6 เปอเซน
แต่ก็ทำให้มึน และเมาได้ทุกครั้งที่ดื่มมัน
ดึกแล้ว
ทำไม อารมณ์อยากกินถึงมาดึกขนาดนี้
เพื่อนกินหายาก เหลือเกิน กับช่วงเวลาดึกๆขนาดนั้น
สุดท้ายเลยนั่งกินเงียบๆภายในกล่องสี่เหลี่ยมอีกตามเคย
RED แค่ 3 ขวด ก็กำลังหลับได้สบายๆ
คุยโทสับกะเทอประมาณ 1 ชั่วโมง
ตอนนี้เราตกลงเป็นเพื่อนกันไปก่อน
แต่ใจฉันยังไม่อยากจะเป็นแค่เพื่อน
แต่เทอบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะมีใคร
เทอบอกว่าไม่อยากให้มีการทะเลาะกันระหว่างเราสองคน
ถ้าหากคบกันแบบเพื่อน มิตรภาพคงดีกว่า และคงจะยาวนานกวว่า

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

งดเสพยาชนิด C ชั่วคราว

เมื่อวานเป็นวันแรกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคุยกะเทอ
ฉันสามารถหลับได้โดยที่ไม่มีอาการอยากคุยกะเทอ
เป็นการที่ยาวนานเป็นสิบชั่วโมง

พร้อมกับเป็นการให้เวลาตัวเอง ได้อยู่กะตัวเอง
ทำให้ได้คิด
ฉันอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว
อย่าไปไหนอีกเลย...ใจ
ยาชนิด C ดูๆแล้วก็คงร้ายแรงพอๆกะชนิด A แลB ที่เคยเจอมาแล้ว
ชนิด A ที่ทำฉันเกือบตาย ซมซานแทบลุกไม่ขึ้น ฉันใช้เวลาเลิกอยากยาชนิดA ตั้งสามปี แต่จนถึงวันนี้เวลาผ่านมาเกือบเจ็ดปีแล้ว แต่กลิ่นยาชนิดนี้ยังลอยวนเวียนรอบๆตัวฉันตลอดเวลา กลิ่นนั้นไม่ได้ลอยไปไหนไกลเลย
"กลิ่นมันแรง"
ยังคงโหยหายาเสพติดชนิดนี้ตลอดเวลาแม้จะเลิก ตัดขาดจากยานี้แล้ว จนกระทั่งได้มาพบยาเสพติดชนิดใหม่ คือชนิด B นั่นเอง
ฉันไม่ได้ติดยาชนิดนี้ในทันทีที่พบเจอเหมือนชนิดแรกหรอก
แต่ชนิดนี้ค่อยๆเอาใจ พร้อมกับแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่บ่งบอกว่า"ยา"ชนิดนี้ดี บวกกับทำให้ฉันมีเพื่อนคุยแก้เหงา ในช่วงที่อาการกำลังลงแดงเมื่อต้องเลิกยาชนิดแรก เวลาผ่านไปเกือบปี ฉันเลยตัดสินใจที่จะเสพติดยาชนิดนี้ ทั้งๆที่ไม่ค่อยถูกใจนัก แต่เมื่อยาชนิดนี้เริ่มไปจากฉัน ความเจ็บปวดจากการแพ้ยาชนิดนี้เริ่มสำแดง
เมื่อรู้ว่ายาชนิดนี้ไปหาร่างสิงห์สถิตใหม่
กว่าจะเลิกยาชนิดนี้ได้ใช้เวลา หนึ่งปีเต็ม ก็คือ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเอง อาการแย่ไม่เท่าชนิดแรกละ เพราะเริ่มมีภูมิคุ้มกัน แต่ยังไงก้มีแต่เสียกับเสีย
จนได้มารู้จักกับเทอ(ชนิด C ) ฉันรู้สึกว่ายาชนิดที่สามนี้ก็กลิ่นหอมน่าดู หากใครได้เสพ คงไม่พ้นคำว่า "ติด" แน่นอน
ลักษณะทางกายภาพ เหมือน "ชนิด A" ไม่มีผิด
กลิ่นหอมแรง เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ได้พบเห็นและได้ใกล้ชิด
สี่ครั้งกับการนัดพบของเราสองคน
ใจฉันสั่น หวั่นไหวตลอดเวลา
ไม่กล้าสบตา
ไม่กล้าเรียกชื่อเทอ
ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก
ตั้งแต่แต่เจอเทอครั้งแรก อาการอยากคุยโทสับก็เกิดขึ้นกับฉันทุกวัน
ไม่ว่าจะเหงาหรือไม่ ฉันก็อยากจะคุยกะเทอ
จนฉันต้องเอาหมายเลขที่ระบุยี่ห้อยาชนิดนี้ทิ้งไป

และคิดว่าจะไม่สรรหาเบอร์นี้มาใส่ในเครื่องสมองอีกต่อไป
แต่แล้วหนึ่งอาทิตย์ถัดมาหมายเลขยาชนิดนี้ก็โผล่มาในเครื่องมือถือฉัน

ถ้าฉันเข้มแข็งกว่านี้ คงไม่รับ
แต่นี่อาการของฉันก็คือ ยังอยากคุยกะเทอ เพียงแต่พยายามไม่คุย
แค่กริ้งแรกฉันก็รับแล้ว...

และความรู้สึกว่าเหมือนได้เสพยาก็เริ่มเข้ามาครอบงำความรู้สึกทั้งหมด
จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เมื่อวานกะวันนี้อาการดีขึ้นละ
ไม่มีอาการอยากคุยโทสับกะเทอแล้ว งดคุยชั่วคราวไปก่อนละกันนะ
กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติ
และได้แต่หวังว่ายาชนิดนี้ คงไม่ทำให้ฉัน"ติด"เหมือนสองชนิดแรกที่เคยเจอมา

งดเสพยาชนิด C ชั่วคราว

เมื่อวานเป็นวันแรกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคุยกะเทอ

ฉันสามารถหลับได้โดยที่ไม่มีอาการอยากคุยกะเทอ

เป็นการที่ยาวนานเป็นสิบชั่วโมง


พร้อมกับเป็นการให้เวลาตัวเอง ได้อยู่กะตัวเอง

ทำให้ได้คิด

ฉันอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว

อย่าไปไหนอีกเลย...ใจ

ยาชนิด C ดูๆแล้วก็คงร้ายแรงพอๆกะชนิด A แลB ที่เคยเจอมาแล้ว

ชนิด A ที่ทำฉันเกือบตาย ซมซานแทบลุกไม่ขึ้น ฉันใช้เวลาเลิกอยากยาชนิดA ตั้งสามปี แต่จนถึงวันนี้เวลาผ่านมาเกือบเจ็ดปีแล้ว แต่กลิ่นยาชนิดนี้ยังลอยวนเวียนรอบๆตัวฉันตลอดเวลา กลิ่นนั้นไม่ได้ลอยไปไหนไกลเลย

"กลิ่นมันแรง"

ยังคงโหยหายาเสพติดชนิดนี้ตลอดเวลาแม้จะเลิก ตัดขาดจากยานี้แล้ว จนกระทั่งได้มาพบยาเสพติดชนิดใหม่ คือชนิด B นั่นเอง

ฉันไม่ได้ติดยาชนิดนี้ในทันทีที่พบเจอเหมือนชนิดแรกหรอก

แต่ชนิดนี้ค่อยๆเอาใจ พร้อมกับแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่บ่งบอกว่า"ยา"ชนิดนี้ดี บวกกับทำให้ฉันมีเพื่อนคุยแก้เหงา ในช่วงที่อาการกำลังลงแดงเมื่อต้องเลิกยาชนิดแรก เวลาผ่านไปเกือบปี ฉันเลยตัดสินใจที่จะเสพติดยาชนิดนี้ ทั้งๆที่ไม่ค่อยถูกใจนัก แต่เมื่อยาชนิดนี้เริ่มไปจากฉัน ความเจ็บปวดจากการแพ้ยาชนิดนี้เริ่มสำแดง

เมื่อรู้ว่ายาชนิดนี้ไปหาร่างสิงห์สถิตใหม่

กว่าจะเลิกยาชนิดนี้ได้ใช้เวลา หนึ่งปีเต็ม ก็คือ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเอง อาการแย่ไม่เท่าชนิดแรกละ เพราะเริ่มมีภูมิคุ้มกัน แต่ยังไงก้มีแต่เสียกับเสีย

จนได้มารู้จักกับเทอ(ชนิด C ) ฉันรู้สึกว่ายาชนิดที่สามนี้ก็กลิ่นหอมน่าดู หากใครได้เสพ คงไม่พ้นคำว่า "ติด" แน่นอน

ลักษณะทางกายภาพ เหมือน "ชนิด A" ไม่มีผิด

กลิ่นหอมแรง เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ได้พบเห็นและได้ใกล้ชิด

สี่ครั้งกับการนัดพบของเราสองคน

ใจฉันสั่น หวั่นไหวตลอดเวลา

ไม่กล้าสบตา

ไม่กล้าเรียกชื่อเทอ

ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก

ตั้งแต่แต่เจอเทอครั้งแรก อาการอยากคุยโทสับก็เกิดขึ้นกับฉันทุกวัน

ไม่ว่าจะเหงาหรือไม่ ฉันก็อยากจะคุยกะเทอ

จนฉันต้องเอาหมายเลขที่ระบุยี่ห้อยาชนิดนี้ทิ้งไป


และคิดว่าจะไม่สรรหาเบอร์นี้มาใส่ในเครื่องสมองอีกต่อไป

แต่แล้วหนึ่งอาทิตย์ถัดมาหมายเลขยาชนิดนี้ก็โผล่มาในเครื่องมือถือฉัน


ถ้าฉันเข้มแข็งกว่านี้ คงไม่รับ

แต่นี่อาการของฉันก็คือ ยังอยากคุยกะเทอ เพียงแต่พยายามไม่คุย

พอเทอโทมาเลยรีบบรับ

และความรู้สึกว่าเหมือนได้เสพยาก็เริ่มเข้ามาครอบงำความรู้สึกทั้งหมด

จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เมื่อวานกะวันนี้อาการดีขึ้นละ

ไม่มีอาการอยากคุยโทสับกะเทอแล้ว งดคุยชั่วคราวไปก่อนละกันนะ

กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติ

และได้แต่หวังว่ายาชนิดนี้ คงไม่ทำให้ฉัน"ติด"เหมือนสองชนิดแรกที่เคยเจอมา


วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

ให้เวลาตัวเอง ...ทำใจ

เศร้า
ว่ะ
เทอบอกว่า จะคุยกับทุกคนแบบเพื่อนเท่านั้น
เทอบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะมีใคร
เทอยังอยากเป็นอิสระ
เทออยากใช้ชีวิตสำหรับนั่งในวงเหล้ากะเพื่อน

เทอรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกะเทอเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
เทอบอกว่า งั้น เราตัดไฟแต่ต้นลมดีไหม

ทำไมวะ
ห้ามฉันไม่ให้ทำอย่างอื่นได้ แต่จะมาห้ามฉันเรื่องชอบเทอ นั้น ยาก...

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

ซื้อความสุข

วันนี้ชวนเทอไปดูหนังแล้ว
แต่ว่า
เฮ้อ
สรุป
ฉันกำลังใช้เงินซื้อความสุข
เป็นไปตามที่เพื่อนฉันว่าจริงๆ
มีเพื่อนคนนึงบอกว่าการที่จะรัก ชอบรุ่นน้องนะ มันเป็น "ภาระ" อย่างนึง
เพราะว่าในวัยที่กำลังเรียนอยู่นั้นฉันรู้ ว่าจะต้องใช้จ่ายเงิน
และยังไม่มีรายได้
อันนี้มันเป็นความจิง

อยากไปเจอเทอ ก็ต้อยอมออกตังค์
อยากไปดุหนัง ก็ต้องยอมออกตังค์
อยากไปกินข้าวกะเทอสักมื้อ ก็ต้องออกตังค์เอง

แบบนี้ ฉันจะมีความสุขจริงหรอ
สุ้อยู่กับตัวเอง แบบเดิม แม้จะมีช่วงเวลาที่เหงาๆ บ้าง
แต่เราก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดีไม่ใช่หรอ

และอีกอยย่างนะ ฉันกลัวถูกเด็กหลอกว่ะ
เฮ้อ
ความรู้สึกตอนนี้ หวั่นๆ
หรือว่าฉันชอบใครไม่เป็น

เย็นนี้จะไปดุบุปผาราตรี3.2 เลยชวนเทอไปด้วย
แต่ดูท่าแล้ว
คงไม่สนุกงะ
เริ่มคิดทางเศรษฐศาสตร์มากขึ้น 555

มันจะสิ้นเปลืองงบประมาณบ่อยไปไหม
พักนี้จ่ายเงินอย่างง่ายดาย
เพื่อให้ได้ความสุขลมๆแล้งๆมา
แต่สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งเหงาคนเดียวในกล่องสี่เหลี่ยมทุกที
แล้วแบบนี้ยังจะไปดูหนังเรื่องโปรดอยู่อีกหรอ
....????